3 สเต็ปง่าย ๆ ฝึก “สกิลหยั่งรู้” ก่อนเกิดเหตุบนถนน

3 สเต็ปง่าย ๆ ฝึก “สกิลหยั่งรู้” ก่อนเกิดเหตุบนถนน
510

Share on

ไม่ว่าคุณจะขับรถ ขี่มอเตอร์ไซค์ นั่งโดยสาร เดินบนฟุตพาท หรือแค่เดินข้ามถนน…
สิ่งสำคัญที่พี่เซฟอยากให้พกติดตัวไว้เสมอ คือ “สติ” และ “ความตระหนักรู้ในสถานการณ์” เพราะ 2 สิ่งนี้จะทำงานร่วมกันเหมือนเรดาร์ส่วนตัว ช่วยให้เรารับรู้ทันความเสี่ยง ตัดสินใจได้แม่น และเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างปลอดภัย!

แล้ว “ความตระหนักรู้ในสถานการณ์” คืออะไร?

ความตระหนักรู้ในสถานการณ์ (Situation Awareness หรือ SA) คือ ความสามารถในการรับรู้ปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว ณ เวลาและสถานที่นั้น ๆ รวมถึงความเข้าใจในความหมายของปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญคือสามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ได้ โดยอาศัยข้อมูลจากการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัส ข้อมูลที่มี ความจำ และการใส่ใจในสถานการณ์นั้น ๆ หรือเอาแบบคิดง่าย ๆ ก็คือ “การรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว” ตั้งแต่

  • สังเกตเห็นอะไรบ้าง
  • เข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไง
  • ไปจนถึงการคาดเดาว่า…แล้วต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

ความตระหนักรู้ แบ่งเป็น 3 ระดับหลัก

1. รวบรวมข้อมูลและสังเกตการณ์ (Data and Observation)

คือการรับรู้ข้อมูลทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าเราในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพถนน การจราจร สภาพอากาศ คนเดินเท้า ความเร็วรถ สัตว์ต่าง ๆ หรือแม้แต่ความพร้อมของตัวเราเอง เราต้องรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาขณะขับขี่

2. แปลความหมายและประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment)

หลังจากได้ข้อมูลมาแล้ว เราควรตีความหมายของข้อมูลเหล่านั้นเพื่อตอบสนองด้วยความรวดเร็ว ซึ่งขั้นตอนนี้แหละที่ต้องระวังให้ดี เพราะข้อมูลที่เราเห็นอาจจะถูกบิดเบือน หรือตีความผิดไปจากความเป็นจริงได้ง่าย ๆ เนื่องด้วยความไม่ชัดเจน คลุมเครือ หรือภาพลวงตา เช่น เราอาจคิดว่ารถบรรทุกที่จอดอยู่กำลังเคลื่อนที่ หรือรถพ่วงกำลังตีโค้งแล้วเราไม่รู้ “ความตระหนักรู้ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง = หายนะที่มาเยือนเราได้”

3. คาดการณ์ล่วงหน้า (Hazard Perception)

คือการที่เราสามารถ “คาดคะเน” สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ได้ เป็นการนำความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบัน ผนวกกับประสบการณ์ที่เคยสะสมไว้ในความจำ มาใช้คาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป และนำไปสู่การตัดสินใจหลีกเลี่ยงอันตรายนั้น ๆ ได้อย่างทันท่วงที

3 สเต็ปง่าย ๆ ฝึก “สกิลหยั่งรู้” ก่อนเกิดเหตุบนถนน

แล้วเราจะฝึกสกิลนี้ได้ยังไง?

พี่เซฟชวนมาฝึก “สกิลหยั่งรู้” ให้เฉียบขึ้น ด้วยเทคนิคง่าย ๆ เหล่านี้

  • อยู่กับปัจจุบัน โฟกัสการขับขี่ ไม่ปล่อยให้ใจลอย
  • คิดไว้ก่อน เห็นสถานการณ์หนึ่ง อย่ารอให้เกิด แต่อยากให้คิดว่า “อะไรจะตามมา”
  • ไม่พร้อม = หยุด ถ้าเหนื่อย ง่วง อารมณ์ไม่ดี หยุดพักก่อน
  • วางแผนล่วงหน้า เตรียมตัวให้พร้อม ทั้งรถ ทั้งร่างกาย
  • มองรอบ ๆ เสมอ ไม่ใช่แค่ข้างหน้า แต่ข้างทางและด้านหลังก็สำคัญ
  • สังเกตคนอื่น พฤติกรรมผู้ใช้ถนนรอบตัว คือคำใบ้ว่าอะไรอาจเกิดขึ้น
  • เตรียมแผน B เผื่อใจไว้เสมอ ว่าถ้ามีอะไรผิดพลาด เราจะทำไง
  • สร้างระบบเตือนตัวเอง ทั้งด้วยสายตา เสียง และการพูดกับตัวเองเบา ๆ เช่น “ชะลอก่อนนะ” หรือ “รถคันนั้นมาเร็ว”

การฝึก “สกิลหยั่งรู้” ก่อนเกิดเหตุบนถนน หรือ “ความตระหนักรู้ในสถานการณ์” (Situation Awareness หรือ SA) อยู่เสมอ ไม่ใช่เรื่องยาก!! เชื่อพี่เซฟเถอะว่าสกิลนี้!! จะช่วยให้เราตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น ไม่ปลอยให้ตัวเองต้องเผชิญกับสถานการณ์คับขัน หรือความเสี่ยงทางถนนโดยไม่จำเป็น

เริ่มฝึกวันนี้ให้เป็นนิสัย แล้วถนนจะปลอดภัยขึ้นอีกเยอะเลยนะครับ 🙂

ที่มา : TSY Camp คู่มือส่งเสริมการเรียนรู้ความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กและเยาวชน, กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

237
“ความปลอดภัยทางถนน ต้องเริ่มจัดการที่ระบบ ควบคู่กับการให้ความรู้ และปลูกจิตสำนึก” เสียงจากแพทย์ผู้ปูทางขับขี่ปลอดภัยในไทย
148
ง่วง…หลับ…และตกจากเบาะหลัง ทุกเย็นหลังเลิกเรียน ภาพที่คุ้นตาคือ เด็กประถมสะพายเป้ใบใหญ่ ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของพ่อแม่กลับบ้าน
210
การทัศนศึกษาคือวันที่เด็ก ๆ รอคอย! เพราะเป็นโอกาสให้พวกเขาได้ออกไปเปิดโลก เรียนรู้นอกห้องเรียน

สนับสนุนโดย

บริหารจัดการโดย

ติดตามข่าวสารของเรา

Loading

© Copyright 2022 Safe Education Thailand. All rights reserved.