4 บทเรียนแสนสนุก ปลูกนิสัยความปลอดภัยทางถนนสำหรับครูอนุบาล

4 บทเรียนแสนสนุก ปลูกนิสัยความปลอดภัยทางถนนสำหรับครูอนุบาล
211

Share on

หลายคนอาจคิดว่า เด็กอนุบาลยังเล็กเกินไปที่จะเข้าใจเรื่องกฎจราจรหรือสัญญาณไฟ

แต่รู้ไหมครับ… เด็กก็คือ “ผู้ใช้ถนน” เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารที่นั่งรถมากับผู้ปกครอง หรือเดินข้ามถนนใกล้โรงเรียน

ปัจจุบัน ประเทศไทยยังมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงถึง 25.4 คนต่อแสนประชากร และในปีเดียว มีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 18,000 คน เฉลี่ย 50 คนต่อวัน ในจำนวนนี้มีเด็กและเยาวชนเกือบ 10 คนทุกวัน ตัวเลขนี้บอกชัดว่า อุบัติเหตุทางถนนไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับเด็กเล็กเลยสักนิด

สิ่งที่เราทำได้ คือการ “ปลูกนิสัยความปลอดภัยทางถนน” ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้เด็กได้เติบโตมาพร้อมทักษะและพฤติกรรมที่ช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนน วันนี้พี่เซฟเลยหยิบเอา “4 บทเรียนแสนสนุกปลูกนิสัยความปลอดภัยทางถนน จากหนังสือแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ “การปลูกฝังจิตสำนึก และการสร้างวินัยจราจร” สำหรับเด็กปฐมวัยอนุบาล 2 ที่ครูจะสามารถนำไปปรับใช้สอนในห้องเรียนกับเด็ก ๆ ได้เลย

4 บทเรียนแสนสนุก ปลูกนิสัยความปลอดภัยทางถนนสำหรับครูอนุบาล

บทเรียนที่ 1. รู้จักกับ “ความปลอดภัย” และ “อันตราย”

ให้เด็กเข้าใจความหมายของคำว่าปลอดภัยและอันตราย ผ่านการฟัง สนทนา และดูภาพ
กิจกรรมสนุก: ชวนเด็ก ๆ เล่นเกม “ปลอดภัยหรืออันตราย” โดยคุณครูอาจจะนำภาพเหตุการณ์ เช่น เด็กข้ามถนนตรงทางม้าลาย หรือเด็กวิ่งตัดหน้ารถ ให้เด็กช่วยกันตะโกนตอบพร้อมยกการ์ดสีเขียว (ปลอดภัย) หรือสีแดง (อันตราย)
เทคนิคชวนจำ: ลองให้พวกเค้าได้ท่องจำแบบนี้ก็ได้นะครับ “ปลอดภัย คือไม่เจ็บ ไม่ปวด” แต่ “อันตราย เราจะเจ็บและปวด”
ผลลัพธ์:
เด็ก ๆ จะเริ่มมี “เรดาร์” ในความคิดของเค้า รู้ว่าพฤติกรรมไหนเสี่ยงและควรหลีกเลี่ยงทันทีที่เจอสถานการณ์จริง

4 บทเรียนแสนสนุก ปลูกนิสัยความปลอดภัยทางถนนสำหรับครูอนุบาล

บทเรียนที่ 2. นักสืบจราจรของ “บ้านและชุมชน” ปลอดภัยไร้ความเสี่ยง

ให้เด็กได้เรียนรู้และสังเกตสภาพแวดล้อมรอบบ้านและโรงเรียน รู้ว่าจุดไหนปลอดภัยและจุดไหนมีความเสี่ยงควรระวัง
กิจกรรมสนุก: มอบ “ภารกิจนักสืบจราจร” ให้เด็ก ๆ ใช้กระดาษวาดแผนที่เส้นทางจากบ้านมาโรงเรียน แล้วใช้สติ๊กเกอร์รูปยิ้มแปะจุดปลอดภัย เช่น ทางม้าลาย และรูปเตือนภัยที่เป็นจุดเสี่ยง เช่น โค้งอันตราย

เทคนิคชวนจำ: “ที่ไหนยิ้ม ที่นั่นปลอดภัย ที่ไหนเตือนภัย เราต้องระวัง” พร้อมชี้ให้ดูสัญลักษณ์และให้เด็กทำท่าประกอบ
เช่น ทำมือเป็นรอยยิ้มเวลาเจอจุดปลอดภัย และทำท่ากากบาทเวลาเจอจุดเสี่ยง
ผลลัพธ์: เด็กจำได้ว่าบริเวณไหนควรเล่นได้ และบริเวณไหนต้องระวังเป็นพิเศษ

4 บทเรียนแสนสนุก ปลูกนิสัยความปลอดภัยทางถนนสำหรับครูอนุบาล

บทเรียนที่ 3. มาโรงเรียนแบบสไตล์ซูเปอร์เซฟ

สอนการนั่งรถจักรยานยนต์และรถยนต์อย่างถูกวิธี เช่น สวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัย หรือใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก
กิจกรรมสนุก: จัด “แฟชั่นโชว์หมวกนิรภัย” ให้เด็ก ๆ ได้ใส่หมวกกันน็อกของจริง เดินบนเวที โพสต์ท่าถ่ายรูป พร้อมเล่าเหตุผลว่าทำไมต้องใส่หมวกกันน็อก หรืออาจจะทำละครนิทานสอนเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยก็ได้และสอดแทรกความรู้ไปพร้อมกัน

เทคนิคชวนจำ: ชวนท่องจำ “4 ห้าม 3 ต้อง” : ห้ามโทร ห้ามเล่น ห้ามเร็ว ห้ามดื่มแล้วขับ ต้องมอง ต้องสวม ต้องคาด

  • ห้ามโทร ทุกครั้งที่เราใช้รถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์เดินทาง ไม่โทร ไม่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ จะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ
  • ห้ามเล่น ทั้งเดินอยู่บนฟุตบาท ข้ามทางม้าลาย หรือขณะขับขี่ ต้องไม่หยอกล้อเล่นกัน
  • ห้ามเร็ว เพราะยิ่งขับขี่เร็ว ยิ่งรุนแรง และยิ่งเสี่ยงตาย
  • ห้ามดื่มแล้วขับ แอลกอฮอล์ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับขี่ นำไปสู่อันตราย
  • ต้องมอง เราต้องมองขวา มองซ้ายให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีรถมาจึงค่อยข้ามถนนได้
  • ต้องสวม การสวมหมวกกันน็อกและดึงสายรัดใต้คางให้กระชับ สามารถช่วยลดความรุนแรงต่อการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ถึง 72% ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้
  • ต้องคาด หน้าที่ของเข็มขัดนิรภัยคือเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนจะช่วยชะลอการพุ่งไปข้างหน้า ช่วยลดแรงกระแทกที่จะเกิดขึ้นกับเรา

ผลลัพธ์: เด็ก ๆ จะมีทัศนคติที่ดีต่อการใช้หมวกกันน็อกและเข็มขัดนิรภัยตั้งแต่ยังเล็ก

4 บทเรียนแสนสนุก ปลูกนิสัยความปลอดภัยทางถนนสำหรับครูอนุบาล

บทเรียนที่ 4. รู้จัก “ทางม้าลาย และสัญญาณไฟ”

ให้เด็กได้เรียนรู้เข้าใจการใช้ทางม้าลายที่ปลอดภัย และความหมายของสัญญาณไฟจราจร

กิจกรรมสนุก: เล่นเกม “ไฟเขียว ไฟเหลือง ไฟแดง” ครูถือป้ายไฟเขียวให้เด็กเดิน ป้ายไฟเหลืองให้เด็กปั่นจักรยานชะลอเตรียมหยุด ป้ายไฟแดงให้เด็กปั่นจักรยานหยุด และป้ายคนเดินให้ข้ามถนน พร้อมให้ความรู้ทางถนนกับพวกเค้ามากขึ้น ได้แก่ 5 ขั้นตอนข้ามทางม้าลายปลอดภัย “หยุด คิด มอง ยกมือ เดิน”

  1. หยุด และยืนรอบนฟุตบาท
  2. คิด ประเมินสถานการณ์
  3. มอง ชะโงกมองขวา ซ้าย ขวา ตรวจสอบให้รอบด้าน
  4. ยกมือ ให้สูงเหนือศีรษะให้คนขับขี่มองเห็นตัวเราชัดเจน
  5. เดิน ไม่เล่น ไม่วิ่ง

จากข้อมูลวิจัยพบว่าการฝึกผ่านเกมและสถานการณ์จำลอง จะช่วยให้เด็กตัดสินใจถูกต้องมากขึ้นถึง 56% และยังคงดีขึ้น 47% หลังฝึกไปแล้ว 1 เดือน
เทคนิคชวนจำ: ข้ามทางม้าลายให้เซฟต้อง “หยุด คิด มอง ยกมือ เดิน” และไฟแดงแปลว่าหยุด ไฟเขียวแปลว่าไป ส่วนไฟเหลืองแปลว่าเตรียมหยุด
ผลลัพธ์: เด็กรู้จักสัญญาณจราจรและเข้าใจว่าควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อเจอสัญลักษณ์เหล่านี้ในชีวิตจริง

การสอนเรื่องถนนปลอดภัยให้เด็กเล็ก ไม่ใช่การสอนให้ “จำ” อย่างเดียว แต่เป็นการสร้าง “นิสัย” ที่ติดตัวไปตลอดชีวิต คุณครูทุกคนจึงเป็นด่านสำคัญด่านแรกของการสร้างถนนที่ปลอดภัยในอนาคต เชื่อพี่เซฟนะครับ… ถ้าสอนให้สนุก เด็กจะเรียนรู้เร็ว และจำได้นาน ถนนปลอดภัย เริ่มได้ตั้งแต่ห้องอนุบาล และคุณครูนี่แหละคือคนเริ่มก้าวแรกให้เด็ก ๆ

ที่มา :

หนังสือแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ “การปลูกฝังจิตสำนึก และการสร้างวินัยจราจร” สำหรับเด็กปฐมวัยอนุบาล 2
หยุด คิด มอง ยกมือ เดิน, ขับขี่ศึกษา, https://shorturl.at/p5aDT

ขับขี่ศึกษา กับรหัส 4 ห้าม 3 ต้อง, https://shorturl.at/8pUVS

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

237
“ความปลอดภัยทางถนน ต้องเริ่มจัดการที่ระบบ ควบคู่กับการให้ความรู้ และปลูกจิตสำนึก” เสียงจากแพทย์ผู้ปูทางขับขี่ปลอดภัยในไทย
148
ง่วง…หลับ…และตกจากเบาะหลัง ทุกเย็นหลังเลิกเรียน ภาพที่คุ้นตาคือ เด็กประถมสะพายเป้ใบใหญ่ ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของพ่อแม่กลับบ้าน
211
การทัศนศึกษาคือวันที่เด็ก ๆ รอคอย! เพราะเป็นโอกาสให้พวกเขาได้ออกไปเปิดโลก เรียนรู้นอกห้องเรียน

สนับสนุนโดย

บริหารจัดการโดย

ติดตามข่าวสารของเรา

Loading

© Copyright 2022 Safe Education Thailand. All rights reserved.