การขี่มอเตอร์ไซค์เป็นวิธีเดินทางที่ทั้งสะดวกและรวดเร็วก็จริง แต่ก็แฝงไปด้วยความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนน ที่อาจทำให้ผู้ขับขี่เสียการควบคุมจนมอเตอร์ไซค์ล้มได้ และถ้าสังเกตดี ๆ ตอนเกิดอุบัติเหตุ ร่างกายเราไม่ได้แค่ล้มลงไปกับพื้นเท่านั้น แต่ยังมี 3 รูปแบบหลัก ๆ ที่เราจะ “กระเด็น” ออกจากตัวรถ ซึ่งเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหนักหรือเสียชีวิต พี่เซฟเลยอยากชวนทุกคนมารู้จัก 3 ท่ากระเด็นอันตราย! พร้อมวิธีป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยกันครับ
1. รถล้มกระเด็นเลี่ยพื้น (Lowside Ejection)
เป็นการล้มที่เกิดขึ้นเมื่อมอเตอร์ไซค์สูญเสียการควบคุมขณะเข้าโค้ง ตัวรถล้มไปในทิศทางเดียวกันกับมุมเอียงรถ จนทำให้ตัวรถล้มและกระเด็นลงไปในทิศทางข้าง ๆ หรือด้านในของโค้ง ซึ่งทำให้คนขี่หรือคนซ้อนท้ายถูกโยนออกจากรถไปและตกกระแทกพื้น
การล้มในลักษณะ Lowside Ejection อาจดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่ไม่รุนแรงมากเมื่อเทียบกับการล้มในลักษณะอื่น ๆ แต่ก็ยังสามารถทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่รุนแรงได้
2. รถล้มกระเด็นลอยสูง (Highside Ejection)
เป็นการล้มรถที่เกิดขึ้นเมื่อมอเตอร์ไซค์สูญเสียการควบคุม ตัวรถล้มไปในทิศทางตรงกันข้ามกับมุมเอียงของรถ โดยเฉพาะในกรณีที่ล้อหลังเกิดการลื่นหรือหมุนจนทำให้เกิดการเสียการยึดเกาะ โดยเมื่อยางกลับมาจับถนนอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ทำให้รถกระตุกหรือเกิดแรงเหวี่ยงขึ้น ส่งผลให้คนขี่ถูกขว้างออกจากรถในลักษณะที่ “ลอยสูง” หรือพุ่งไปข้างหน้าแรง ๆ การล้มในลักษณะ Highside Ejection เป็นอุบัติเหตุที่มีความรุนแรงมากกว่า Lowside เพราะมักจะเกิดการกระเด็นสูงและแรง บาดเจ็บจากอุบัติเหตุประเภทนี้มักรุนแรงขึ้น หากไม่มีการสวมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม เช่น หมวกกันน็อก เสื้อแจ็กเก็ต หรือถุงมือที่ช่วยลดการบาดเจ็บจากการกระแทกพื้น
3. กระเด็นแบบหกคะเมน (Endover Ejection)
เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อมอเตอร์ไซค์เสียการทรงตัวอย่างรุนแรง โดยมักจะเกิดจากการกระแทกของล้อหรือการกระทำที่ผิดพลาดจากการควบคุมที่ไม่ดี เช่น การเบรกที่แรงเกินไปหรือการขับขี่ด้วยความเร็วสูงในสภาพที่ไม่เอื้อต่อการยึดเกาะ การล้มแบบนี้จะส่งผลให้ขี่กระเด็นไปข้างหน้าและหมุนกลางอากาศ โดยอาจเกิดการกระเด็นและตกลงไปในลักษณะที่คล้ายการหกคะเมน ซึ่งอาจทำให้บาดเจ็บอย่างรุนแรงได้
แล้วต้องขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัยจากการ “ล้ม”
1. ควบคุมความเร็ว : การขี่มอเตอร์ไซค์ในความเร็วที่เหมาะสมและสามารถควบคุมได้ คือกุญแจสำคัญในการป้องกันรถล้ม โดยเฉพาะกับทางที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น โค้งที่แคบหรือถนนลื่น
2. ฝึกทักษะการขี่ : การฝึกการเข้าโค้งหรือการเบรกในสนามฝึกทักษะมอเตอร์ไซค์ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขี่และทำให้สามารถจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น
3. ใส่อุปกรณ์ป้องกัน : ไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน็อก เสื้อแจ็กเก็ต ถุงมือ หรือรองเท้าที่เหมาะสม การสวมใส่อุปกรณ์นิรภัยเหล่านี้ ช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากการล้ม และทำให้การขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น
4. ตรวจสอบสภาพถนน : ระวังสภาพถนนที่อาจทำให้รถสูญเสียการยึดเกาะ เช่น ถนนเปียก น้ำขัง คราบน้ำมัน การเพิ่มความระมัดระวัง และขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ จะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้
3 ท่ากระเด็นอันตรายจากรถมอเตอร์ไซค์ เป็นอีกหนึ่งความรู้สำคัญ ที่จะช่วยให้เรารู้เท่าทันและเพิ่มโอกาสรอดปลอดภัยในวันที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะการตกจากรถไม่ใช่แค่เจ็บเล็กน้อย แต่อาจนำไปสู่การบาดเจ็บรุนแรง หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางถนน หากเราไม่ได้ติดอยู่กับตัวรถ ก็มีโอกาสสูงที่จะกระเด็นหลุดออกจากตัวรถด้วยแรงปะทะ ซึ่งแต่ละรูปแบบของการกระเด็นก็มีความเสี่ยงและอันตรายแตกต่างกันไป เพื่อป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด การมีทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัย การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม และการควบคุมความเร็วในการขับขี่ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการล้ม และช่วยให้การขี่มอเตอร์ไซค์ของเราปลอดภัยมากขึ้น
ที่มา:
– คู่มือ #Saveสมอง จากอุบัติเหตุการขับขี่ (หน้า 7-8), สสส. www.thaihealth.or.th/?p=353265
– มอเตอร์ไซค์ล้ม “ไฮไซด์ (Highside)” และ “โลว์ไซด์ (Lowside)” คืออะไร, AutoSpinn www.autospinn.com/2019/11/motorcycle-crash-highside-vs-lowside-75571