“สัญญาณไฟจราจร”
คือ อุปกรณ์สัญญาณไฟที่ปรากฏตามแยกถนนต่างๆ, ทางเดินเท้า และสถานที่อื่น ๆ เพื่อควบคุมการจราจรบนถนน โดยการแสดงสัญญาณให้กับคนขับรถและคนเดินเท้าทำตามสัญญาณไฟ
ในอดีต “สัญญาณไฟจราจร” เป็นสัญลักษณ์ที่ทุกคนให้ความเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่ในปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อยเริ่มเปลี่ยนไป หลายคนเลือกที่จะ “ตีความ” สัญญาณไฟด้วยตัวเอง หรือบางครั้งก็ไม่ให้ความสำคัญกับมันเท่าที่ควร ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงและการสูญเสียบนถนนเป็นอย่างมาก
พฤติกรรมของผู้ใช้ถนนที่เปลี่ยนไป
🔴 ไฟแดง: หยุด หรือไปต่อ?
- บางคนเลือกที่จะ “ฝ่าไฟแดง” โดยคิดว่าไม่มีรถหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เห็น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ
- มีแนวโน้มที่ผู้ขับขี่จะชะลอแต่ไม่หยุดสนิท หรือเลี้ยวซ้ายผ่านโดยไม่ดูรถทางหลัก
🟡 ไฟเหลือง: เตรียมหยุด หรือเร่งเครื่อง?
- หลายคนมองว่าไฟเหลืองเป็น “สัญญาณให้เร่งความเร็ว” แทนที่จะเตรียมหยุด
- ผู้ขับขี่บางคนเลือกที่จะเบรกกะทันหันเมื่อไฟเหลืองขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากรถที่ขับตามมา
🟢 ไฟเขียว: ไปได้เลย หรือระวังไว้ก่อน?
- ผู้ขับขี่บางคนออกตัวทันทีเมื่อเห็นไฟเขียว โดยไม่มองว่ามีรถฝ่าไฟแดงมาหรือไม่
- ในบางพื้นที่ ผู้คนเริ่มเคยชินกับการใช้แตรไล่รถข้างหน้าหากออกตัวช้าเพียงเสี้ยววินาที
สิ่งที่ผู้ขับขี่ควรทำ
1.เคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
🔴“ไฟแดง” หมายถึง “หยุด” ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด
🟡“ไฟเหลือง” หมายถึง “เตรียมหยุด” ผู้ขับขี่ควรชะลอความเร็วเพื่อเตรียมหยุดรถหลังเส้นให้หยุด
🟢“ไฟเขียว” หมายถึง “ไปได้เมื่อปลอดภัย” ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วเพื่อเตรียมหยุดรถหลังเส้นให้หยุด2.สังเกตสิ่งรอบข้าง
แม้ไฟเขียวจะให้สิทธิ์ในการไปต่อ แต่ควรมองซ้ายขวาก่อนออกตัวเสมอ3.รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการเบรกกะทันหัน
สิ่งที่ผู้ขับขี่ไม่ควรทำ
1.ขับจี้คันข้าง และฝ่าไฟแดง
ผู้ขับขี่ขับจี้คันข้างหน้าที่ติดสัญญาณไฟแดงบนทางแยก หรือแม้แต่จะขับขี่ออกไป เพราะเห็นว่าถนนโล่ง ไม่มีรถสวน หรือคนข้ามถนนก็ตาม แน่นอนว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่ความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ และที่สำคัญคือผิดกฎหมาย2.เร่งเครื่องเมื่อเห็นไฟเหลือง
ควรเตรียมตัวหยุดแทนการเร่งเพื่อให้พ้นไฟแดง “ไฟเหลือง” หมายถึง “เตรียมหยุด”3.ออกตัวโดยไม่มองซ้าย-ขวา
แม้ไฟเขียวจะให้สิทธิ์ในการเคลื่อนที่ แต่ก็ควรต้องตรวจสอบว่าทางโล่งจริงหรือไม่4.กดดันหรือบีบแตรไล่รถคันหน้า
สร้างความเครียดให้กับผู้ขับขี่คนอื่น และอาจนำไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดคิด
สิ่งสำคัญของการขับขี่ผ่านแยกสัญญาณไฟจราจรที่ปลอดภัย
เมื่อผู้ขับขี่จอดรอ“สัญญาณไฟจราจร” เป็นคันแรก ในขณะที่สัญญาณไฟสีแดงกำลังเปลี่ยนเป็นสีเขียว ผู้ขับขี่ควรตรวจถนนทางซ้ายและขวาของทางแยกก่อน เมื่อเห็นว่าโล่ง และปลอดภัยค่อยเคลื่อนตัวรถ เพื่อความแน่ใจของผู้ขับขี่ควรจะเว้นระยะเวลา 3 วินาที หลังจากสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วจึงค่อยเคลื่อนตัวรถออกไป
วันนี้พี่เซฟอยากชวนจึงอยากชวน ทุกคนทำความรู้จักกับ “สัญญาณไฟจราจร” ในฐานะที่เป็นผู้ขับขี่ถ้าเราเป็นผู้ขับขี่ เรารู้จักกับ“สัญญาณไฟจราจร” ดีแล้วหรือยัง?? ทั้งสีเขียว-เหลือง-แดง เวลาที่แต่ละสีปรากฎขึ้น เราสามารถทำ หรือไม่ทำอะไรได้บ้าง
กติกาการเล่น
- เขียนคำตอบที่คิดว่าใช่! แยกลงในแต่ละช่องให้ถูกต้อง
- เขียนลายมือตัวบรรจง ไม่เขียนหวัดจนอ่านไม่ออก
- ถ่ายรูปหรือแนบไฟล์คำตอบ แปะใต้โพสต์นี้ 1 คน ต่อ 1 คอมเมนต์เท่านั้น ได้ที่ https://www.facebook.com/SAFEEDUCATIONTHAI
- พร้อมลุ้นรับของรางวัลจำนวน 5 ท่าน (1 รางวัลต่อ 1 ท่าน)
- ร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มี.ค. 2568
เซฟรูปตามโพสต์นี้ หรือ ดาวน์โหลดรูปภาพกิจกรรมนี้ได้ที่ https://forms.gle/gn1JUXGGksfdu8M18
มาร่วมสนุกกันเยอะ ๆ นะครับ แถมได้ทบทวนความรู้ ตระหนักถึงจุดที่ควรและไม่ควรปฏิบัติอีกด้วย ที่คุณครูหรือพ่อแม่ผู้ปกครองใช้เป็นเครื่องมือให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องนี้กันได้เลย
ที่มา: คู่มือเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย การคาดการณ์อุบัติเหตุ (Hazard Perception Training), หน้า 67