การตอบสนองของผู้ขับขี่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ความเสี่ยงทางถนน ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของแค่การควบคุมยานพาหนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังอาศัย การสังเกตผู้ร่วมใช้ถนนควบคู่ไปด้วย การเตรียมตัว และการรู้วิธีปฏิบัติในสถานการณ์ระหว่างรถของเรากับผู้ร่วมใช้ถนนอื่น ๆ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทุกการเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น วันนี้พี่เซฟจะชวนทุกคนมาดูกันว่า เมื่อเจอเข้ากับสถานการณ์ความเสี่ยงทางถนน พวกเราควรตอบสนองกันอย่างไร
การขับขี่บนถนนไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็วหรือการถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วที่สุด แต่เป็นเรื่องของการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อด้วย เพื่อให้ทุกการเดินทางปลอดภัยสำหรับตัวเองและผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ วันนี้พี่เซฟมาดูกันว่ามีสถานการณ์ไหนบ้าง ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ!
เพราะชีวิตในวัยประถมสู่มัธยมคือ ก้าวเล็ก ๆ ในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การเปลี่ยนผ่านจากโรงเรียนประถมสู่มัธยมเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นสำหรับเด็ก ๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นช่วงที่พวกเขาต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการเดินทางไปโรงเรียนอย่างอิสระมากขึ้น เด็กบางคนอาจเริ่มเดินทางด้วยตนเองเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการเดิน ขี่จักรยาน หรือโดยสารสาธารณะ
“ขับขี่ปลอดภัย” ไม่ใช่เรื่องของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเท่านั้น ยังหมายรวมถึง “คนเดินเท้า” อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น คนข้ามถนน คนข้ามทางม้าลาย คนที่เดินอยู่บนฟุตพาท ซึ่งเป็นอีกกลุ่มคนที่น่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย เพราะจากข้อมูล ศูนย์รับแจ้งเหตุ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ปี 2566 พบว่า มีคนเดินเท้าเสียชีวิตจำนวน 196 รายต่อปี หรือเฉลี่ยประมาณ 2 วันต่อ 1 ราย
“เครื่องหมายจราจร” สื่อกลางสำคัญช่วยให้ผู้ใช้รถปฏิบัติตามกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง และช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเราหรือบุคคลอันเป็นที่รักได้ ดังนั้นการขับขี่ให้ปลอดภัย ไม่เพียงความสามารถในการดูถนนหนทาง คาดการณ์ความเสี่ยงให้ดีแล้ว เราควรสังเกตเครื่องหมายจราจรข้างทางหรือบนพื้นถนน และปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องได้อีกด้วย
อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขทั้งในระดับนโยบายและพฤติกรรมของผู้ใช้รถ ใช้ถนน วิธีการสื่อสารรณรงค์แบบเดิม เช่น การออกกฎหมายหรือการรณรงค์ผ่านป้ายเตือน อาจไม่เพียงพอ เพราะพฤติกรรมของผู้คนมักเกิดจากอารมณ์และสิ่งแวดล้อม
