การขับขี่บนถนนไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็วหรือการถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วที่สุด แต่เป็นเรื่องของการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อด้วย เพื่อให้ทุกการเดินทางปลอดภัยสำหรับตัวเองและผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ วันนี้พี่เซฟมาดูกันว่ามีสถานการณ์ไหนบ้าง ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ!
เมื่อขับรถผ่านเขตก่อสร้างหรือซ่อมถนน การจราจรอาจชะลอตัวและมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทั้งจากเครื่องจักรหนัก พื้นผิวขรุขระ ป้ายเตือนไม่ชัดเจน หรือคนงานที่อาจอยู่ใกล้ถนน บางครั้งผู้ขับขี่อาจละเลยป้ายเตือนชั่วคราว หรือป้ายจำกัดความเร็วที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ในขณะเดียวกัน ผู้รับเหมาก็อาจไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดอันตรายโดยไม่รู้ตัว เพื่อความปลอดภัย ทุกครั้งที่ขับรถผ่านเขตก่อสร้าง ควรสังเกตป้ายเตือน ลดความเร็ว และเปลี่ยนช่องทางอย่างระมัดระวัง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่รถของเราจะเกิดความเสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุในบริเวณนี้ได้
หากรถเสียบนทางด่วน สิ่งแรกที่ควรทำคือ ตั้งสติ และพยายามนำรถเข้าจอดที่ไหล่ทางด้านซ้าย เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแจ้งเตือนรถคันอื่น ๆ หากไม่จำเป็น ห้ามลงจากรถ เพราะการเดินอยู่บนทางด่วนเป็นอันตรายมาก ให้อยู่ในรถและคาดเข็มขัดนิรภัยขณะรอความช่วยเหลือ จากนั้นจอดรถและเรียกขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โทร.1543 (การทางพิเศษแห่งประเทศไทย), 1586 (ทางหลวงและมอเตอร์เวย์), 1233 (Tollway Call Center), และ 1193 (ตำรวจทางหลวง) เพื่อขอความช่วยเหลือ
เมื่อมีสัตว์วิ่งตัดหน้ารถโดยไม่คาดคิด เช่น สุนัขหรือสัตว์ป่า อาจทำให้ผู้ขับขี่ตกใจและหักหลบกะทันหัน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมากกว่าเดิม คำแนะนำของพี่เซฟ คือ ควรชะลอความเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียการควบคุม ขับรถช้า ๆ เอาไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีป้ายเตือนสัตว์ป่า ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ กรณีสัตว์เล็กควรบีบแตรเตือนสั้น ๆ ไม่บีบแตรลากยาว* เพราะสัตว์อาจตื่นตระหนกวิ่งตัดหน้ารถเราแทนได้
*ที่มา: ขับขี่ปลอดภัย by DLT, https://bit.ly/4hJpfC3
เมื่อได้ยินเสียงไซเรนหรือเห็นไฟกระพริบจากรถพยาบาลหรือรถฉุกเฉิน ให้รีบตรวจสอบกระจกและมองรอบ ๆ เพื่อระบุทิศทางของรถฉุกเฉิน จากนั้น ชะลอความเร็วและหลีกทางให้ด้วยความระมัดระวัง โดยการขับชิดขอบทางด้านซ้าย (ถ้าเป็นไปได้) ไม่หยุดรถกลางถนนหรือเร่งขับตามรถฉุกเฉินเพื่อลัดคิว เพราะอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุมักทำให้การจราจรชะลอตัวลง ผู้ขับขี่บางคนอาจชะลอรถเพียงเพื่อดูเหตุการณ์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการชนท้ายอย่างไม่จำเป็น เมื่อขับเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว ควรมองไกลไปข้างหน้า คาดการณ์ความเสี่ยง เพื่อตรวจสอบสิ่งกีดขวางและรถโดยรอบ ชะลอความเร็วอย่างเหมาะสม และเปลี่ยนช่องทางอย่างระมัดระวัง เพื่อเลี่ยงการจราจรติดขัด
สถานการณ์ฉุกเฉินทางถนนสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักขับมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์
การรู้จักรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ด้วยความไม่ประมาทและมีสติ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก การขับขี่ปลอดภัยไม่ใช่แค่การขับรถเก่ง แต่คือการรู้จักเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จงจำไว้เสมอว่า “ชีวิตมีค่า อย่าประมาทแม้เพียงเสี้ยววินาที”
ที่มา: คู่มือเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย การคาดการณ์อุบัติเหตุ (Hazard Perception Training), หน้า 79-81