4 เทคนิค Kiken Yochi Training (KYT) เปลี่ยนคุณให้เป็นฮีโร่เซฟถนนในชีวิตจริง!
ทุกครั้งที่เราขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์หรือสตาร์ทรถยนต์ ความไม่แน่นอนก็เริ่มต้นขึ้นทันที อุบัติเหตุอาจไม่ได้เกิดจากเราคนเดียว แต่อาจมาจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เรามองข้าม เพราะฉะนั้น “การมองให้เห็นก่อนอันตรายจะมาถึงคือสิ่งสำคัญที่ทุกคนฝึกได้”
วันนี้พี่เซฟจะมาแนะนำเทคนิค “Kiken Yochi Training” หรือ “KYT” หรือการฝึกพลังหยั่งรู้ล่วงหน้า ที่จะเปลี่ยนความชินชาในแต่ละวันของเราให้กลายเป็นสัญชาตญาณ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของตัวเองและคนรอบข้าง
KYT คืออะไร ??
Kiken Yochi Training (KYT) เป็นเทคนิคจากประเทศญี่ปุ่น แปลตรงตัวได้ว่า “การฝึกการคาดการณ์อันตราย” โดยชื่อเรียกมาจากการนำคำว่า Kiken (危険) ที่แปลว่า “อันตราย” Yochi (予知) แปลว่า “คาดการณ์” และคำว่า Training แปลว่า “การฝึกฝน” มารวมกัน โดยหัวใจของ KYT คือ “มองให้เห็นก่อนมันจะเกิด” เพราะถ้าเรารอให้อุบัติเหตุเกิดก่อนแล้วค่อยเรียนรู้ บางทีมันอาจจะสายเกินไป
แนวคิดหลักของ KYT คือ เห็นก่อนที่มันจะเกิด ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุแล้วค่อยเรียนรู้
เทคนิคนี้เริ่มต้นในกลุ่มพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ซึ่งต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง KYT จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้พนักงานฝึกทักษะการระวังภัย ด้วยการ “พูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ อย่างจริงใจ” เพื่อให้พนักงานตื่นตัวพร้อมรับมือสถานการณ์เสมอ โดยหลักการทำงาน KYT มีอยู่ 4 ข้อด้วยกัน คือ
1. สร้างจิตสำนึก ให้พนักงานปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัย
2. คิดพิจารณาว่าจะป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไรก่อนทำงานทุกครั้ง
3. อุบัติเหตุเป็นศูนย์ พนักงานต้องให้คำมั่นสัญญาหรือปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง
4. เตือนตนเองทุกครั้ง ก่อนทำงานต้องมีความพร้อมและปลอดภัยถึงจะเริ่มงานได้
นอกจากนี้ เทคนิค KYT ก็แพร่หลายไปสู่วงการอื่น ๆ เช่น จราจร โรงเรียน โดยเฉพาะยิ่งในโลกการขับขี่บนท้องถนน เทคนิคนี้ก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาทักษะด้านความปลอดภัยบนท้องถนนให้มีประสิทธิภาพ ที่ใคร ๆ ก็สามารถฝึกได้
4 เทคนิค KYT ที่ใครก็ฝึกได้เพื่อการขับขี่ปลอดภัย
เทคนิคนี้เริ่มต้นในกลุ่มพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ซึ่งต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง KYT จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้พนักงานฝึกทักษะการระวังภัย ด้วยการ “พูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ อย่างจริงใจ” เพื่อให้พนักงานตื่นตัวพร้อมรับมือสถานการณ์เสมอ โดยหลักการทำงาน KYT มีอยู่ 4 ข้อด้วยกัน คือ
1. มองให้ไว (Look):
ค้นหาอันตรายที่มีอยู่ในการเดินทาง สามารถเริ่มต้นได้จากการสังเกตสถานการณ์รอบตัวขณะขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น รถจอดข้างทาง เด็กกำลังจะข้ามถนน มอเตอร์ไซค์กำลังเบี่ยงออกซ้าย ทุกจุดล้วนเป็น “สิ่งผิดปกติ” ที่เกิดขึ้นบนถนนได้ทั้งสิ้น2. ชี้ให้ชัด (Point Out):
วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ ควรบอกให้ชัดถึงจุดเสี่ยงอันตรายนั้น ๆ ว่าเสี่ยงอย่างไร เช่น ตรงรถจอดขวาง? คนเดินตัดหน้า? เพื่อเป็นการตีกรอบที่ให้สมองของเรา “เข้าใจอันตราย” ที่จะเกิดขึ้นได้3. คิดให้ทัน (Think):
คิดต่อไปอีกว่า ถ้าสถานการณ์นี้เกิดขึ้นจริง เราควรช่วยกันหาแนวทางป้องกันหรือแก้ไขอย่างไรลดความเร็ว? หยุดรอ? เปลี่ยนเลน? วิธีคิดแบบนี้ช่วยให้สมองซ้อมแผนสำรองไว้เสมอ
4. ทำให้ชิน (Act):
ลงมือทำตามแผนทันทีเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง เพราะสมองได้ซ้อมไว้แล้ว เราจะตอบสนองได้ไวขึ้น โดยไม่ตื่นตระหนก
ทำไม KYT จึงสำคัญ ??
หัวใจสำคัญของ KYT คือ การที่ทุกคนมองเห็นปัญหาร่วมกัน ค้นหาว่าอะไรคือความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ จากนั้นจึงช่วยป้องกันแก้ไข การพูดย้ำความคิดแสดงถึงความตื่นตัวและความจริงใจที่จะป้องกันอุบัติเหตุ
KYT หรือ Kiken Yochi Training คือการฝึก “พลังหยั่งรู้” เพื่อคาดการณ์อันตรายก่อนเกิดจริง ผ่านการสังเกต วิเคราะห์ และวางแผนรับมืออย่างมีสติ เป็นทักษะที่ฝึกได้ทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่บนถนน ในที่ทำงาน หรือในชีวิตประจำวัน เพราะอุบัติเหตุไม่เคยแจ้งเตือนล่วงหน้า แต่เราสามารถ “มองให้ไว ชี้ให้ชัด คิดให้ทัน ทำให้ชิน” ได้เสมอ
เริ่มฝึก และสร้างนิสัย KYT ตั้งแต่วันนี้ ให้เป็นทักษะติดตัว เพื่อความปลอดภัยทางถนน และคุณจะเป็นฮีโร่แถวบ้านที่คนรอบข้างไว้ใจได้เสมอ
ที่มา:
– ชุดความรู้การจัดการพฤติกรรมเสี่ยงจากการไม่สวมหมวกนิรภัยใกล้บ้าน เล่มที่ 2 : มาตรการองค์กร ปักหมุดขยายฐานความปลอดภัย สู่ชุมชนรอบข้าง, ศวปถ. (หน้า 22-25)
– KYT คืออะไร, SAFESIRI www.safesiri.com/kyt-is
