ขี่ได้ไม่ง้อใบขับขี่ จริงหรือ?
การขับรถไม่ใช่มีแค่เรื่องของการขับได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องพ่วงด้วยความเข้าใจเรื่องกฎหมายที่ถูกต้อง ไม่งั้นอาจจะเกิดความใจผิด ๆ และเกิดอุบัติเหตุได้ วันนี้พี่เซฟเลยมาเล่าให้น้อง ๆ ฟังถึงเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับความเข้าใจและความสำคัญเรื่องใบขับขี่กับการขับรถที่เราอาจต้องทำความเข้าใจกันเสียใหม่ รวมถึงตระหนักถึงความสำคัญของใบขับขี่ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจการใช้รถบนท้องถนนของเราถูกต้องและปลอดภัยกว่าเดิม
1. ขับขี่ใกล้ไกลต้องมีใบขับขี่
ใบขับขี่นั้นสำคัญกับเราเพราะถือว่าได้ผ่านด่านทดสอบความสามารถตรงตามมาตรฐานการขับขี่ที่ปลอดภัยและผ่านการเรียนรู้กฎจราจรมาแล้ว หากขับขี่โดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากใบขับขี่หมดอายุ อยู่ระหว่างการถูกเพิกถอน หรือถูกยึดใบอนุญาตขับขี่ จะต้องถูกระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท เห็นแบบนี้แล้ว เวลาขับรถไปไหนมาไหน จะใกล้หรือไกล ควรพกใบขับขี่ไว้ดีที่สุด
2. ขับรถตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งดี?
น้อง ๆ เข้าสู่วงการนักขับมือใหม่ตั้งแต่อายุ 10-15 ปี ที่ไม่มีการควบคุมดูแลการฝึกหัดขับขี่หรือฝึกเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ ส่วนใหญ่ได้รับการสอนจากพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือฝึกหัดขับเอง ซึ่งส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ช่วงอายุของน้อง ๆ ต้องเหมาะสมด้วย เพื่อให้ควบคุมรถจักรยานยนต์ที่มีทั้งขนาดความสูงและความหนักที่เป็นอันตรายต่อเด็ก ๆ ได้ ถ้า น้อง ๆ คนไหนอยากฝึกขับรถล่ะก็ ช่วงอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจะเป็นวัยที่เหมาะสมมากกว่า เพราะว่ามีสภาพร่างกายใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ แถมฝึกแล้วจะได้ทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ตอนนั้นได้เลยอีกด้วย
3. ใบขับขี่กับการเกิดอุบัติเหตุ!
จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุปี พ.ศ. 2562 เราพบข้อมูลที่น่าตกใจว่า ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ร้อยละ 60 บนท้องถนน ไม่มีใบขับขี่ และมีโอกาสจะประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนมากกว่าคนที่มีใบขับขี่ถึง 2 เท่า! โดยส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 24 ปี เห็นตัวเลขมาแบบนี้น่าตกใจมาก ๆ พี่เซฟต้องเน้นย้ำว่าการทำใบขับขี่ รวมถึงการหัดขับรถที่ปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากต่อความปลอดภัยบนท้องถนนของพวกเราทุกคน
4. ใบขับขี่ทำไมต้องสอบหลายใบ สอบใบเดียว ขับรถทุกแบบได้ไหม?
น้อง ๆ น่าจะเคยได้ยินอะไรแบบนี้ ฟังแล้วก็อาจจะคิดว่า ถ้ารถหลายประเภทบนท้องถนนมันมีวิธีขับคล้าย ๆ กันเนี่ย แล้วเราจะสอบใบขับขี่หลายประเภทกันไปทำไมนะ? หรือสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์แล้ว ใช้แทนใบขับขี่รถอื่น ๆ ได้ไหม? คำตอบคือไม่ได้นะ! เพราะแม้ว่ารถหลาย ๆ ประเภทอาจจะมีวิธีการฝึกฝนร่วมกันก็จริง แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะใช้ใบขับขี่ข้ามประเภทกันได้ เพราะรถแต่ละแบบใช้ทักษะการขับขี่ต่างกัน จึงจำเป็นต้องมีใบขับขี่เป็นหลักฐานรับรองถึงสมรรถภาพของผู้ขับขี่ว่ามีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งการเอาใบขับขี่มาใช้รถข้ามประเภทก็ถือว่าผิดกฎหมายได้เหมือนกัน
ที่มา:
- กรมการขนส่งทางบก, https://bit.ly/3DCFvlY
- ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน, https://www.thairsc.com/
- ข่าวสด, https://bit.ly/3hgl3zT
- Info Portal, https://portal.info.go.th/driving-license-types/
