“ดอกยาง” ส่วนประกอบรถที่หลายคนอาจมองข้าม แต่มีประโยชน์อย่างมากต่อการขับขี่ช่วงฤดูฝน วันนี้พี่เซฟจะพาน้อง ๆ เข้าสู่โหมดเนิร์ดกันสักหน่อย ไปรู้จักกับ “ดอกยาง” ว่าคืออะไร แล้วทำไมถึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญช่วยให้การขับขี่รถช่วงหน้าฝนของเราปลอดภัยกันยิ่งขึ้น
ดอกยางคืออะไร
ดอกยาง หรือดอกยางรถยนต์ เป็นชื่อเรียกลักษณะพื้นผิวของล้อยางรถ วัตถุประสงค์หลัก คือทำให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การขับขี่ยานพาหนะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยางยังทำหน้าที่กระจายน้ำหนักให้รถยนต์ โดยหน้ายางจะทำหน้าที่กระจายแรงทั้งหมดไปยังทิศทางต่าง ๆ สู่ผิวถนนอีกด้วย โดยดอกยางนั้นมีรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อรองรับการใช้งานของรถตามถนนที่มีลักษณะพื้นผิวแตกต่างกัน
ดอกยางแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรา ??
– รถยนต์ที่เน้นใช้งานบนถนนที่เรียบ ดอกยางควรเป็นดอกละเอียด ร่องยางไม่ห่าง เพื่อไม่ให้เสียพื้นผิวสัมผัสกับหน้าถนนมากจนเกินไป สามารถรีดน้ำออกได้อย่างรวดเร็ว และมีเสียงรบกวนน้อย
– รถยนต์ที่เน้นใช้งานถนนออฟโรด เน้นลุย หรือขับขี่ในเส้นทางวิบากบ่อย ๆ ดอกยางควรมีดอกยางที่ใหญ่และมีร่องยางห่าง เพื่อเน้นการสลัดโคลน หิน หรือน้ำ หากใช้ดอกยางละเอียด เศษโคลนหรือหิน กรวดอาจเข้าไปติดตามดอกและร่องยาง จนหน้ายางลื่น และถ้านำดอกยางที่ใหญ่มาใช้งานบนทางเรียบ ร่องยางที่ห่างทำให้มีผิวสัมผัสถนนน้อย การยึดเกาะถนนก็น้อยตามไปด้วยและในช่วงความเร็วสูงจะมีเสียงดังจนน่ารำคาญ
– รถยนต์ที่ใช้งานสำหรับเส้นทางกึ่งลุยกึ่งเรียบ (All Terrain) สำหรับยางประเภทนี้ เมื่อนำไปใช้บนถนนเรียบ การยึดเกาะทำได้ดีระดับหนึ่งและมีเสียงรบกวนอยู่บ้าง ในขณะที่เมื่อนำไปใช้บนเส้นทางสมบุกสมบัน เช่น ทางลูกรัง หิน กรวด ทราย ก็สามารถใช้งานได้ดี (ยางประเภทนี้จะไม่เหมาะกับถนนที่เป็นดินโคลน)
การดูแลรักษาดอกยางที่ใช้
– เปลี่ยนยางใหม่เมื่อยางถูกใช้งานไปแล้ว 4-5 ปี หรือประมาณ 50,000 – 80,000 กิโลเมตรขึ้นไป แต่ถ้ารถไม่ค่อยได้ใช้งานหรือวิ่งระยะไกล ดอกยางยังแน่นและไม่มีการสึกหรอ ก็สามารถใช้ยางต่อไปได้ประมาณ 8-10 ปี ไม่ควรเกินนั้น
– ถ้าความลึกของดอกยางต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร ก็คือควรเปลี่ยนยางใหม่ได้แล้ว
– ควรเช็กเดือนละ 1 ครั้ง และในช่วงหน้าฝนที่ต้องลุยถนนเปียก ควรเติมลมยางเผื่อไว้อีก 1-2 ปอนด์ เพื่อให้ยางแข็งและรีดน้ำได้ดี และอย่าลืมเช็กลมขณะที่ยางเย็นเท่านั้น
– สลับยาง ทุก ๆ 1 หมื่นกิโลเมตร ยางรถยนต์ที่ถูกใช้งาน โดยเฉพาะผู้ที่ขับทางไกลและใช้ความเร็วสูงแต่ละข้างจะมีการสึกหรอไม่เท่ากัน เมื่อครบกำหนดหมื่นกิโลเมตร แนะนำให้ยางล้อคู่หน้าสลับกับยางล้อคู่หลัง เพื่อให้ดอกยางของทุกล้อสึกหรอเท่าเทียมกัน ทั้งนี้รูปแบบการสลับยางจะขึ้นอยู่กับประเภทของรถและรูปแบบยาง
ทำไมดอกยางถึงสำคัญกับการขับขี่หน้าฝน
คุณสมบัติสำคัญของดอกยางที่เป็นหัวใจสำคัญในการช่วยเหลือการขับขี่ของน้อง ๆ ในช่วงหน้าฝน ก็คือ คุณสมบัติการรีดน้ำ
ที่จะช่วยให้ลดความเสี่ยงของรถจากการลื่นไถลบนพื้นถนนที่เปียกจากฝน ซึ่งยางรถยนต์ดอกยางแบบทิศทางเดียว เป็นดอกยางที่มีคุณสมบัติดีที่สุดสำหรับกรณีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขับรถฝ่าแอ่งน้ำ เพราะอาจทำให้รถเกิดอาการเหินน้ำ (Hydroplane) หรืออาการที่หน้ายางไม่สามารถสัมผัสพื้นถนนได้ โดยเฉพาะเวลาขับรถมาด้วยความเร็วสูง ซึ่งเสี่ยงต่อรถเกิดอาการเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุได้สูงมาก โดยวิธีขับรถหลบแอ่งน้ำอย่างปลอดภัย ควรใช้ความเร็วอย่างเหมาะสม หากขับรถเร็วเกินไป หรือหักพวงมาลัยอย่างรวดเร็วก็อาจทำให้รถเสียหลักได้เช่นกันอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว น้อง ๆ ก็น่าจะเข้าใจกันแล้วว่าส่วนประกอบเล็ก ๆ อย่างดอกยาง กลับมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของการขับขี่มากขนาดไหน โดยเฉพาะในหน้าฝนแบบนี้ น้อง ๆ ก็อย่าลืมตรวจเช็กสภาพยางรถคันโปรดของเรา ดูว่ายางรถยนต์ที่เราใช้นั้น เหมาะสมกับสภาพการใช้งานของเราหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยในทุกการขับขี่ของเราตลอดฤดูฝนนะ
ที่มา:
– Kmotors, https://bit.ly/3O1HAhu
– B-Quik, https://bit.ly/44aRYcz
– Best Conveyor Center, https://bit.ly/3D02jMn