แม้ว่ารถจักรยานยนต์จะเป็นพาหนะที่สะดวก คล่องตัว ง่ายต่อการเดินทางบนถนน แต่ก็ยังเป็นยานพาหนะประเภทที่ง่ายต่อการถูกโจรกรรมอีกด้วย วันนี้พี่เซฟจึงขอรวบรวมแนวทางเพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกขโมยรถจักรยานยนต์ของเรากัน ว่าแต่จะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย
1. ไม่เสียบกุญแจทิ้งไว้
อาจจะฟังดูตลก แต่พี่เซฟมั่นใจว่าน้อง ๆ จำนวนไม่น้อยต้องเคยเสียบกุญแจคาไว้ที่รถจักรยานยนต์ทิ้งไว้กันแน่นอน ซึ่งความประมาทเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้แหละคือจุดเริ่มต้นของความเสี่ยงที่รถของเราจะหายได้เลย ยิ่งพอเป็นรถจักรยานยนต์แล้วล่ะก็ โอกาสจะหายคือสูงมาก ๆ เพราะมิชฉาชีพสามารถใช้โอกาสนี้ขโมยรถเราไปแบบง่ายดาย ดังนั้น ก่อนจะลงจากรถ เช็กให้แน่ใจว่านำกุญแจรถออกจากที่เสียบแล้วทุกครั้ง (ย้ำอีกทีว่าทุกครั้งนะ!)
2. ล็อกรถ
ล็อกคอรถจักรยานยนต์ให้เป็นประจำทุกครั้ง ในพื้นที่จอดที่ไม่ขวางทางเข้าออกของรถคันอื่น และเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น แนะนำให้ใช้สายโซ่หรือสายเคเบิลล็อกระหว่างล้อรถกับเสาที่จอดไว้ (เอาหมวกกันน็อกไปล็อกร่วมด้วยเลย!) ก็จะป้องกันการขโมยได้ดีอีกระดับ
3. จอดรถไว้ในที่ที่มองเห็นได้ง่าย ไม่ลับ ไม่อับตา
ถ้าน้อง ๆ ต้องจอดรถจักรยานยนต์ไว้ข้างนอก แนะนำให้จอดในที่ที่สามารถมองเห็นได้ง่าย อย่าจอดในที่ลับตาหรือที่เป็นมุมอับ เพราะเป็นจุดที่จะเกิดการขโมยได้ง่าย แต่ถ้าต้องจอดใต้อาคาร แนะนำให้จอดบริเวณที่คนพลุกพล่านหน่อย มีแสงสว่างเพียงพอ หรือถ้าเอาชัวร์เลยถ้ามีพนักงานรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ก็ไปจอดใกล้ ๆ พี่เขาเลยจะดีมาก
4. ล็อกจานเบรก
อุปกรณ์ล็อกที่เป็นที่นิยมอีกตัวหนึ่ง นอกจากสายโซ่หรือสายเคเบิลล็อกแล้ว ก็คือตัวล็อกจานเบรก จะช่วยล็อกรถจักรยานยนต์ของเราให้แน่นหนาและแข็งแรงยิ่งขึ้น
5. ทำรถเสีย (แบบชั่วคราว)
ข้อนี้น้อง ๆ อาจต้องอาศัยความเข้าใจเรื่องเครื่องยนต์กลไกสักหน่อย ซึ่งคนขับรถที่ชำนาญแล้ว อาจจะถอดอุปกรณ์บางชิ้นออกไป เช่น ถอดฟิวส์ (Fuse) เก็บไว้กับตัวก่อนจอดรถทิ้งไว้ เพื่อให้รถจักรยานยนต์ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว หากขโมยเข้ามาหวังจะจัดการรถของเราล่ะก็ อาจจะประสบปัญหาและความยุ่งยากในการขโมยได้
6. ติดตั้งสัญญาณกันขโมย
วิธีนี้เราเห็นกันบ่อยในรถยนต์ส่วนบุคคล แต่ไม่ค่อยเห็นในรถจักรยานยนต์นัก ซึ่งพี่เซฟบอกว่า วิธีนี้ก็สามารถทำกับรถเราได้เช่นกัน การติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบส่งเสียงดังนี้จะช่วยเราได้มาก เมื่อมีคนมาขโมยรถของเรา เสียงเตือนจะดังขึ้น ทำให้ขโมยตกใจ จนอาจล้มเลิกการโจรกรรมได้
7. ผ้าคลุมรถ ลดจุดเด่น
หากต้องจอดรถไว้ข้างนอกหรือในที่จอดรถ แนะนำให้ใช้ผ้าคลุมรถมาคลุมไว้ นอกจากจะช่วยป้องกันฝุ่นแล้ว ยังทำให้รถของเราไม่เป็นจุดสนใจด้วย
8. จดหมายเลขเครื่องและชิ้นส่วน
ขโมยรถอาจนำรถไปขายทั้งคัน หรือถอดขายเป็นชิ้น ๆ การจดหมายเลขเครื่อง (ถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิทัลไว้ก่อนน่าจะดี) และชิ้นส่วนต่าง ๆ ไว้น่าจะดีเช่นกัน
9. ติดอุปกรณ์จีพีเอส
อันนี้เป็นทางเลือกใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือ นั่นก็คือการติด GPS Tracker รถจักรยานยนต์ของเรา ซึ่งจะช่วยสามารถติดตามความเคลื่อนไหว รวมถึงป้องกันการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ได้ โดยน้อง ๆ สามารถตรวจสอบสถานะรถของเราผ่านทางแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดาย หรือหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว ก็ดำเนินนำรถจักรยานยนต์ของเรากลับมาได้อย่างทันท่วงที
10. ทำประกันรถหาย
นอกเหนือไปจากวิธีการด้านบนทั้งหมดแล้ว หากน้อง ๆ รู้ว่ารถของเรานั้นมีมูลค่าสูง ก็ควรจะทำประกันรถหายเอาไว้เพื่อความอุ่นใจอีกข้อหนึ่งด้วย ถือว่าเป็นการช่วยเซฟในเหตุกาณ์ที่สุดวิสัย แต่ถ้าเราป้องกันทุกอย่างอย่างดีแล้ว แต่สุดท้ายรถเราก็ยังหายอีก การทำประกันส่วนนี้ก็จะช่วยชดเชยค่าเสียหายส่วนหนึ่งให้เราได้
นอกจากการขับขี่ให้ปลอดภัยแล้ว เราก็ควรรู้จักป้องกันรถจักรยานยนต์ของเราให้ปลอดภัยจากการขโมยด้วย และนี่ก็เป็นเทคนิคต่าง ๆ ที่น้อง ๆ สามารถนำไปใช้กันได้ ให้รถคู่ใจอยู่กับเราไปนาน ๆ
ที่มา:
– Auto Spinn, https://www.autospinn.com/2017/02/5-tips-to-get-your-bike-save-for-thief
– Lock Sure Bike, http://www.locksurebike.com/article/6/8