น้อง ๆ ที่ใช้รถจักรยานยนต์หรือรถจักรยานอยู่เป็นประจำ นอกจากจะต้องมีหมวกกันน็อกเป็นอุปกรณ์ประจำตัวเพื่อความปลอดภัยแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ก็คือ เสื้อกันฝน นั่นเอง แต่ไม่ใช่ว่าจะหาเสื้อกันฝนอะไรมาใส่ก็ได้ เราควรมองหาเสื้อกันฝนที่เหมาะสมกับสถานการณ์และพฤติกรรมการขับขี่ของเราด้วย
ซึ่งวันนี้พี่เซฟจะมาแชร์วิธีเลือกเสื้อกันฝนให้พวกเราขับขี่ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นตลอดช่วงหน้าฝนนี้กัน ว่าแต่จะมีวิธีการเลือกอย่างไรนั้น ติดตามข้อมูลกันได้เลย
1. เลือกเสื้อกันฝนที่รูปแบบ
เสื้อกันฝนสามารถแบ่งได้ทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ แบบแยกส่วน โดยจะแยกเป็นส่วนบนและส่วนล่างเหมือนเสื้อกับกางเกง และแบบคลุมได้ทั้งตัว ซึ่งเป็นรูปแบบที่เราคุ้นตากันดี โดยจะสวมใส่จากทางศีรษะแล้วคลุมไปทั้งตัว ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็มีข้อดี-ข้อด้อยแตกต่างกัน ดังนี้
- เสื้อกันฝนแบบแยกส่วน: เสื้อกันฝนแบบชุดเป็นการแยกส่วนจะมีจุดเด่นตรงที่ใส่แล้วช่วยให้ผู้ขับขี่เคลื่อนไหวหรือขยับตัวได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นเสื้อกันฝนที่เหมาะสำหรับใส่เพื่อขับขี่มอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะคนที่จำเป็นต้องเดินทางเป็นระยะเวลานาน เพราะเป็นรูปแบบที่สามารถป้องกันน้ำได้ดีแม้เจอฝนเทกระหน่ำก็ช่วยกันได้ดีในระดับหนึ่ง
ข้อควรระวัง เสื้อกันฝนประเภทนี้อาจสวมใส่ได้ไม่ถนัดโดยเฉพาะส่วนกางเกง เนื่องจากปกติชุดกันฝนจะกระชับพอดีตัวผู้ใส่ หากเกิดช่วงเวลาที่ฝนตกลงมาอย่างรวดเร็วขณะขับขี่ อาจทำให้สวมใส่ชุดได้ช้าและเปียกฝนขณะสวมใส่ ดังนั้นถ้าขณะขับขี่แล้วเห็นฟ้าฝนไม่เป็นใจ ให้เตรียมตัวสวมชุดไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
- เสื้อกันฝนแบบคลุมทั้งตัว: เสื้อกันฝนแบบคลุมทั้งตัวจะโดดเด่นเรื่องความสะดวกสบายในการสวมใส่ เพราะสามารถถอดเข้าออกได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านการสวมทางศีรษะ มีประโยชน์มาก ๆ หากฝนเกิดตกมาแบบไม่ทันตั้งตัว แถมยังมีดีไซน์ขนาดใหญ่เหมาะกับการใช้คลุมทั้งตัว ซึ่งใหญ่พอจะคลุมด้านหลังในกรณีที่น้อง ๆ มีกระเป๋าสะพายหลังมาด้วย อีกทั้งยังเป็นเสื้อกันฝนที่ระบายอากาศได้ดี
ข้อควรระวัง ชุดกันฝนแบบนี้มักจะผลิตให้มีความยาวเพียงแค่ครึ่งตัวหรือครึ่งน่องเท่านั้น จึงไม่เหมาะที่จะสวมใส่ในสภาพอากาศที่มีลมแรงจัด หรือเมื่อต้องขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นเวลานาน รวมถึงการขับขี่ที่มีการใช้ความเร็ว เพราะเมื่อขับขี่แล้วเจอแรงลมอาจทำให้เสื้อกันฝนโบกปลิวตามแรงลม ที่อาจทำให้เศษสิ่งสกปรกขณะฝนตกอาจจะมาติดรองเท้าและเขาของน้อง ๆ ได้ ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องคำนึงเรื่องคุณสมบัติการป้องกันการรั่วซึม เพื่อให้สวมใส่แล้วป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าข้างในเปียกได้นั่นเอง ซึ่งเสื้อกันฝนที่ดีควรทอด้วยเส้นใยที่ทนต่อน้ำได้อย่างดีเยี่ยมและจะยิ่งดีถ้าเป็นรุ่นที่ทำจากผ้ากันน้ำ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกใช้เสื้อกันฝนที่ทนทานน้ำได้อย่างน้อย 2,000 มิลลิเมตร ในกรณีที่ต้องใช้ในการขับขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่หากต้องสวมใส่ป้องกันฝนเป็นเวลานาน ขอแนะนำให้ซื้อเสื้อกันฝนที่สามารถป้องกันน้ำตั้งแต่ 10,000 มิลลิเมตรขึ้นไปครับ ทั้งนี้ เสื้อกันฝนส่วนใหญ่จะทำจากผ้าไนลอนหรือผ้าโพลีเอสเตอร์เหมือน ๆ กัน แต่คุณสมบัติการป้องกันน้ำนั้นเป็นเรื่องของกระบวนการผลิตมากกว่าวัสดุที่ใช้ ดังนั้น ทางที่ดีให้คุณเลือกสินค้าที่ระบุรายละเอียดของการป้องกันน้ำซึมและทำจากผ้ากันน้ำไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพและมาตรฐานการผลิตจะดีที่สุด
3. เลือกเสื้อกันฝนที่ระบายอากาศได้ดี
เพราะฝนตกแต่ละพื้นที่ในแต่ละครั้งมักมีความแตกต่างกันไป ซึ่งอาจทำให้บางคุณสมบัติที่ดีของเสื้อกันฝนที่น้อง ๆ เลือกมา กลับกลายเป็นผลเสียได้เหมือนกัน อย่างเช่น ในเสื้อกันฝนที่มีคุณภาพสูงมาก สามารถป้องกันการไหลซึมของน้ำได้ดีมาก มักจะมีคุณสมบัติป้องกันอากาศที่จะเข้าไปด้วย ซึ่งหากขับขี่ในช่วงที่ฝนตกไม่หนักมากหรือตกสลับหยุด พร้อมกับการที่ต้องเผชิญแดดร้อนช่วงกลางวัน ก็จะส่งผลให้ร่างกายของคุณจะชุ่มไปด้วยเหงื่อภายใต้ชุดกันฝนนั่นเอง ซึ่งในประเทศเขตร้อนแบบบ้านเราอย่างนี้ เสื้อกันฝนที่ไม่ระบายอากาศแบบนี้อาจจะอันตรายกับน้อง ๆ ไปสักหน่อย
ดังนั้น พี่เซฟขอแนะนำให้เลือกเสื้อกันฝนที่มีการระบายความร้อนที่ดีและมีซับในด้วย เพื่อให้มีการระบายอากาศได้ดีมากขึ้น แต่หากน้อง ๆ อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีฝนตกหนักเป็นประจำ เช่น ภาคใต้ ก็อาจต้องลองมองหาเสื้อกันฝนที่สามารถป้องกันการรั่วซึมของน้ำให้ดีขึ้นอีก เพราะต้องเจอกับการขับขี่ฝ่าสายฝนบ่อยนั่นเอง
4. เลือกเสื้อกันฝนที่การออกแบบความปลอดภัย
เสื้อกันฝนที่เหมาะกับการใส่ปั่นจักรยานหรือขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้น ควรมีดีไซน์ที่เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยแก่ผู้สวมใส่ ซึ่งสินค้าที่วางขายในท้องตลาด ค่อนข้างมีหลายรูปแบบ พี่เซฟจะชวนให้ดูกันดังต่อไปนี้
5. เลือกเสื้อกันฝนให้มีขนาดพอเหมาะ
ขณะขับขี่มอเตอร์ไซค์แล้วต้องสวมใส่เสื้อกันฝนไปด้วย อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ เช่น ชายเสื้อกางเกงกันฝนไปพันกับโซ่หรือล้อรถ หรือเสื้อกันฝนฉีกขาดขณะขับขี่ หรือสวมชุดกันฝนขนาดใหญ่มาก ไปต้านกับแรงลมปะทะจนรบกวนขณะขับขี่ เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้หลายครั้งเกิดขึ้นจากการเลือกเสื้อฝนกันที่ไม่เหมาะสมกับขนาดของร่างกายและมอเตอร์ไซค์ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยนำไปสู่อุบัติเหตุบนท้องถนนได้เช่นกัน ดังนั้นควรจะเลือกเสื้อกันฝนที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัย และเลือกขนาดให้พอดีกับสรีระผู้ขับขี่ก็จะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ไปด้วย
ทั้งนี้หากฝนตกหนัก เสื้อกันฝนเอาไม่อยู่ หมวกกันน็อกที่สวมใส่มองเห็นถนนและสภาพแวดล้อมขณะขับขี่ได้ไม่ชัด พี่เซฟแนะนำว่าให้หยุดหาที่พักเพื่อความปลอดภัยก่อน รอให้ฝนซา ฟ้าใส แล้วค่อยขับต่อจะเป็นการดีที่สุดนะครับ เพราะความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอนะครับ
ที่มา:
– The Drive, https://bit.ly/3JzWOb7
– My Best, https://my-best.in.th/45244
– Ride Apart, https://bit.ly/3plGYKh
– Best Review, https://bestreview.asia/best-rain-coat/