5 วิธีช่วยรถยนต์ให้รอดจากความร้อนระอุ

safe your car in summer
554

เปิดปฏิทินมาเห็นเดือนเมษาปุ๊ป ก็รู้เลยว่าหน้าร้อนได้มาเยือนทุกคนกันเต็มตัวแล้ว ซึ่งสำหรับประเทศไทย น้อง ๆ ทุกคนต่างรับรู้กันดีว่านี่คือฤดูที่โหดสุด ๆ ในเรื่องอากาศ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวันที่แทบทะลุเกิน 40 องศาเซลเซียส (นรกจะร้อนเท่านี้ไหมนะ) แถมไหนวันดีคืนดีจะมีพายุฤดูร้อนมาถล่มบ้านเรือนอีก ทำให้อากาศในฤดูร้อนนั้นมีความแปรปรวนตลอดเวลา

ได้ยินแบบนี้แล้ว เราดูแลรักษารถกันยังไง เพราะอากาศร้อนทำอันตรายต่อรถได้มากกว่าที่คิด ซึ่งอาจจะทำให้รถมีปัญหา
จนส่งผลการขับขี่ และลามไปจนเกิดอุบัติเหตุโดยไม่ทันคาดคิดได้เลย  ดังนั้นเพื่อให้ทุกการขับขี่ของเราบนท้องถนนนั้นปลอดภัย พี่เซฟจึงมีคำแนะนำดูแลรักษารถในช่วงหน้าร้อนมาแบ่งปันทุกคนกัน

safe your car in summer 1

1. อากาศร้อน เครื่องยนต์ร้อนกว่า

ปกติเครื่องยนต์ของรถจะเป็นส่วนที่มีความร้อนอยู่แล้ว เพราะต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาการขับขี่ของเรา แต่ถ้าวันไหนรถต้องเจอกับอากาศที่มีความร้อนสูงล่ะก็ อุณหภูมิของเครื่องยนต์ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยอย่างน่าตกใจเลย ซึ่งวิธีการตรวจเช็กว่าเครื่องยนต์ของเรานั้นร้อนเกินจนผิดปกติไปหรือไม่ดังนี้ 

  • เช็กหม้อน้ำและรังผึ้ง หม้อน้ำและรังผึ้งเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากต่อการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เนื่องจากหม้อน้ำมีหน้าที่โดยตรงในการจ่ายน้ำเพื่อใช้เป็นระบบหล่อเย็นเพื่อรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ไม่ให้สูงจนเป็นอันตราย ดังนั้นจำเป็นคอยเช็กสภาพอยู่เสมอว่าอุปกรณ์นั้นอยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งานตลอดเวลา
  • เช็กระดับน้ำในหม้อน้ำ การที่หม้อน้ำจะทำงานได้มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการเติมน้ำกลั่นและน้ำยารักษาหม้อน้ำอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้รถยนต์นั้นสามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถ้าระดับน้ำในหม้อน้ำมีหมดหรือมีน้อยเกินไป อาจทำให้การทำงานของอุปกรณ์ไม่ได้ตามประสิทธิภาพสูงสุดได้
safe your car in summer 2

2. รถร้อน ยางก็ร้อนตาม

เครื่องยนต์ตอนเจอแดดว่าร้อนแล้ว ยางรถยนต์คือร้อนกว่า เพราะนี่คืออีกชิ้นส่วนสำคัญของรถที่จะต้องดูแลและเอาใจใส่กันเป็นพิเศษไม่น้อยไปกว่าเครื่องยนต์เลย ด้วยความร้อนต่าง ๆ นั้นส่งผลต่อสภาพยางโดยตรง ลองนึกภาพว่ายางรถสัมผัสกับผิวถนนที่เต็มไปด้วยความร้อนระอุของอากาศในแต่ละวัน น้อง ๆ ก็น่ามองออกกันแล้วว่ามันส่งผลกระทบต่อยางรถของเราได้แน่ ๆ ดังนั้นเราต้องหมั่นคอยตรวจสอบสภาพยางรถอยู่เป็นประจำ ตั้งแต่การตรวจวัดลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือการตรวจสอบยางอะไหล่ก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ทุกการเดินทางที่จะเกิดขึ้นในหน้าร้อนนั้นปลอดภัยจากความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากยางรถยนต์ที่เสื่อมสภาพได้

safe your car in summer 3

3. จอดรถไว้กลางแดด ให้อุ่นเครื่องสักหน่อยก่อนออกตัว

หากจำเป็นที่จะต้องจอดรถยนต์ไว้กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ ล่ะก็ ก่อนจะขับรถออกไปพี่เซฟแนะนำว่าให้ให้สตาร์ทรถทิ้งไว้ก่อนสักพัก เพื่อให้เครื่องยนต์ได้ทำการวอร์มเสียก่อน อีกทั้งยังช่วยทำให้เครื่องยนต์ได้คลายความร้อนที่สะสมอยู่ด้วย วิธีนี้จะช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์และยืดอายุการใช้งานรถได้เป็นอย่างดีด้วย

safe your car in summer 4

4. ระบายอากาศก่อนสตาร์ทเครื่อง

สำหรับรถยนต์ ในอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ มักจะทำให้อากาศภายในห้องโดยสารรถนั้นร้อนอบอ้าวมากเป็นพิเศษ ดังนั้นก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ พี่เซฟแนะนำว่าควรจะเปิดกระจกหรือประตูทิ้งไว้ก่อนสักครู่ วิธีนี้จะช่วยให้อากาศมีการถ่ายเทกันระหว่างภายนอกและภายในรถ เพื่อลดความร้อนในห้องโดยสารได้ และหลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์แล้ว การควรเปิดแอร์ในระดับพัดลมปกติแบบที่ไม่มีลมเย็นสักพัก แล้วจึงค่อยเปลี่ยนเป็นแอร์เย็นในภายหลัง

safe your car in summer 5

5. ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ คืออีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยป้องกันรถของคุณจากความร้อน ซึ่งปัจจุบันในท้องตลาดมีให้เลือกใช้งานอยู่หลากหลายประเภท ซึ่งการติดตั้งฟิล์มรถยนต์ที่ถูกต้องและเหมาะสมนั้นควรกระทำภายใต้คำแนะนำและการปฏิบัติงานของผู้เชี่ยวชาญนะ ไม่ควรซื้อฟิล์มมาติดเอง

เพียงเท่านี้ รถยนต์ของที่บ้านก็จะพร้อมขับขี่ลุยหน้าร้อนสุดโหดกันได้อย่างไร้ห่วง แถมยังปลอดภัยต่อผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางกันอีกด้วย 

ที่มา:

ติดตามโซเชียลของเราได้ที่

© Copyright 2022 Safe Education Thailand. All rights reserved.