การแต่งรถอาจไม่ใช่เป็นแค่เรื่องการอวดความเท่ หรือการแข่งขันแย่งชิงความเป็นเลิศเรื่องความเร็ว แต่มันอาจเป็นโลกของคนที่หลงใหลการปรับแต่งในโลกของยานยนต์และเครื่องยนต์กลไก คือของเล่นที่ให้ความสนุกแก่พวกเขา วันนี้พี่เซฟมีโอกาสได้มาพูดคุยกับ “เจ-ชนินทร์ วรพิณทอง” นักการตลาดผู้มีวิญญาณนักขับขี่ ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวและมุมมองของคนเล่นรถ ที่ทางของโลกการแต่งรถกับถนนเมืองไทย ภาพลักษณ์ของคนแต่งรถในสายตาสังคม รวมถึงประสบการณ์ของการแต่งรถได้มอบบทเรียนให้เขาได้เติบโตในโลกของท้องถนน
“เราชอบเรื่องรถมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลย แต่ที่สนใจเรื่องแต่งรถด้วยเพราะว่ามันเป็นเรื่องของสไตล์ ความเท่ ประมาณว่าเราชอบรถแล้วเราก็อยากให้รถที่ขับมันสวยหรือตรงตามใจที่ชอบด้วย เราจะเน้นมอเตอร์ไซค์หน่อยเพราะชอบเป็นพิเศษ กับอีกอย่างก็เรื่องราคานะที่เรารู้สึกรับได้ว่ายังพอหาของมาแต่งได้อยู่ แบบว่ามันไม่แพงเกินไป”
“เราไม่เคยมีประสบการณ์โดยตรงขนาดนั้น แต่มีเพื่อน ๆ ในกลุ่มแต่งรถนะที่เคยโดนจับหรือโดนเรียก ซึ่งส่วนใหญ่ตอนโดนก็มักจะมีเรียกดูทะเบียนว่าต่อหรือยัง สีรถตรงไหม ดูของดัดแปลงต่าง ๆ ในรถว่าผิดกฎหมายแค่ไหน ซึ่งเวลาโดนเรียกนี่คือใช้คำว่าสุ่มได้เลยนะ วันดีคืนดีจะโดนเรียกก็คือโดนเลยนะ ดังนั้นจะบอกว่าเสี่ยงก็ได้นะ”
“เพื่อน ๆ ที่โดนจับ ส่วนใหญ่มาจากเรื่องไม่ติดป้ายทะเบียนรถ คือป้ายทะเบียนเนี่ยมันเป็นชิ้นส่วนที่คนแต่งรถหลายคนชอบเอาออกเพราะชอบคิดว่ามันบังตัวรถแล้วทำให้รถไม่สวย หรือไม่ก็อยากให้รถดูใหม่เนี๊ยบแบบพึ่งแต่งมาใหม่ ๆ ก็เลยไปเอาป้ายออก ซึ่งอันนี้จริง ๆ เรื่องเอาป้ายออกเนี่ยมันผิดกฎหมายเลยนะ พอโดนจับทีหนึ่งมันก็เลยหนัก เสียเงินบ้าง โดนยึดรถก็มี ดังนั้นเรื่องป้ายทะเบียนนี่อย่าให้พลาดเลย”
และพี่เซฟขอบอกน้อง ๆ เพิ่มเติมว่า หากขับรถโดยไม่มีใบขับขี่จะมีความผิดตามกฎหมาย ผู้ใดขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“เราเลือกล้อนะ เพราะว่าล้อมันเหมือนกับจุดสังเกตแรก ๆ เลยเวลาคนมอง เหมือนเป็นหน้าตาสำคัญของรถเลยล่ะ ก็เลยคิดว่าถ้าต้องแต่งรถให้สวย ก็อยากจัดล้อดี ๆ ให้มันรถมันมีหน้าตาดี ๆ สักหน่อยไว้ก่อน”
“เราคิดว่าสังคมไปโฟกัสที่คนแต่งรถเท่ากับคนขับรถที่ไม่มีคุณภาพมากไป แต่จริง ๆ สังคมคนแต่งรถมันมีมากกว่านั้นไง เหมือนที่ทุกสังคมก็มีดีไม่ดีปนกันไป นึกภาพว่าคนที่แต่งรถเป็นเนี่ย บางทีมันมาจากพื้นฐานความรู้เรื่องรถยนต์ที่เขาเรียนรู้จนเชี่ยวชาญ มันกลายเป็นทั้งความสนุกเป็นความรู้ก็มี เอาจริง ๆ คนที่ขับรถที่ฝ่าฝืนกฎจราจรจนเกิดอุบัติเหตุโดยที่รถคันนั้นไม่ใช่รถแต่งก็มีเยอะแยะไปนะ เผลอ ๆ เยอะกว่ารถแต่งเสียอีก” ดังนั้นการแต่งรถที่ดี ควรต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่อยู่เสมอ
“เราคิดว่ากฎหมายมันมีพื้นที่ให้การแต่งรถมันดูเป็นไปได้อยู่นะในบ้านเรา ประมาณว่าทำได้แต่มีข้อบังคับ เช่น เราเข้าใจได้ในเรื่องข้อบังคับการแต่งรถส่วนต่าง ๆ ที่มันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย พวกการเปลี่ยนเครื่องยนต์ เปลี่ยนกลไกบางอย่างที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของคนใช้ถนนอะไรพวกนี้ เราไม่ติดเลย เพราะคิดว่ามันสำคัญเหมือนกัน แต่บางเรื่องอย่างการตกแต่งภายนอกเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น พวกสี สติ๊กเกอร์ อะไรพวกนี้ เวลาพอโดนจับ มันมีโอกาสโดนยึดรถสูง ซึ่งเรารู้สึกว่าข้อนี้มันอาจจะรุนแรงไปหน่อย น่าจะมีการปรับข้อกฎหมายหรือจ่ายโทษด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การยึดรถนะ”
“มันทำให้เราเข้าใจรถที่เราขับมากขึ้น เหมือนเราค่อย ๆ ถอดชิ้นส่วนรถออกมา แล้วทำความเข้าใจไปทีละอย่าง เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับการปรับแต่ง เอาจริง ๆ เหมือนเราเล่นของเล่นเลย โอเคมันได้ความสนุกตามความชอบ แต่ก็ได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งการเข้าใจรถที่ขับขี่มันทำให้เรากลายเป็นคนที่ใช้รถบนถนนได้ดีขึ้นด้วยนะ”
เรียกได้ว่าการสัมภาษณ์ คุณเจ-ชนินทร์ วรพิณทอง ในครั้งนี้ ทำให้พี่เซฟ และน้อง ๆ ทุกคนที่ได้อ่าน ได้เห็นมุมมองใหม่ในการแต่งรถกันเลยทีเดียว ได้เห็นถึงความชอบ ความหลงใหล การทำให้ถูกต้อง มีความรู้และความเข้าใจในการขับขี่บนท้องถนนที่เพิ่มขึ้นตามการประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ และสิ่งสำคัญกว่านั้น ไม่ว่าจะแต่งรถหรือไม่แต่งรถ ทุกคนก็ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้ไม่มีประวัติโดนจับ และอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น น้อง ๆ ว่ามั้ย?