#ใครชอบฟังเพลงอะไรเวลาขับรถกันบ้างครับ? ก่อนจะอ่านต่อพี่เซฟขอคนละ 1 คอมเมนต์ แล้วไปดูกันว่าเพลงที่เราฟังมีผลต่อเราอย่างไร?
คนส่วนใหญ่ชอบฟังเพลงหรือวิทยุเวลาขับรถ ทำให้บรรยากาศบนรถไม่เงียบเหงาจนเกินไป ซึ่งมีงานวิจัยมากมายวิเคราะห์ไว้ว่าเสียงเพลงมีผลต่อพฤติกรรมการขับขี่ของเราด้วยนะครับ งานตีพิมพ์ในวารสาร Accident Analysis and Prevention พบว่าคนขับที่ฟังเพลงที่มีความถี่ 120 จังหวะเพลงต่อนาที (beats per minute; bpm) จะทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น ยิ่งฟังเพลงเสียงดังจะยิ่งมีอารมณ์รุนแรง กล้าเสี่ยง หรือขับรถแบบโฉบเฉี่ยวมากขึ้นด้วย แถมยิ่งเสียงดังก็จะยิ่งทำให้เราไม่ได้ยินเสียงโดยรอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสียงแตร เสียงรถฉุกเฉิน เป็นต้น
ส่วนจังหวะเพลงที่แนะนำให้ฟังขณะขับรถคือเพลงช้าหรือฟังสบาย ๆ จะมีความเร็วประมาณ 60-80 bpm จะทำให้ผู้ขับขี่มีสมาธิมากขึ้นและควบคุมรถได้ดีขึ้น
นอกจากความเร็วแล้ว เนื้อเพลงก็มีผลเหมือนกันนะ เพลงที่มีเนื้อเพลงจะทำให้สมองของเราต้องจดจ่อมากกว่า งานวิจัยบอกว่าเนื้อเพลงจะดึงดูดความสนใจของสมองเราไป และทำให้เรามีความสามารถได้การตัดสินใจหรือตอบสนองต่อเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ช้าลง เพลงที่ดีที่สุดจึงเป็นเพลงบรรเลงที่ฟังสบาย ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า “โอ้ว แบบนี้ต้องหลับแน่นอนเลย” แต่ความจริงแล้วเพลงแค่ทำให้เราผ่อนคลายเท่านั้น แต่จะง่วงหรือไม่ พี่เซฟขอบอกว่าขึ้นอยู่กับการพักผ่อนของผู้ขับขี่เลยครับ ถ้าพักผ่อนมาเพียงพอแล้วจะไม่ทำให้ง่วง แต่ถ้าระหว่างขับขี่เกิดรู้สึกง่วง ทางที่ดีควรจะหยุดรถเพื่อพักสักครู่ ลดความเหนื่อยล้า เพราะว่า #ต่อให้ง่วงแค่ไหน #ความปลอดภัยต้องมาก่อน
และท้ายนี้พี่เชฟ เลยขอเอาเพลงที่ตัวเองมักใช้เปิดตอนขับรถมาแชร์กันครับ กด Save ไว้ฟังตอนขับรถกันได้เลย หรือถ้าใครมีplaylist ไหนที่ฟังอยู่ก็มาแชร์กับพี่เชฟได้เลยน๊า จะได้เก็บไว้ฟังบ้าง https://www.youtube.com/watch?v=0QBns7xyKjk
อ้างอิง:
- Science Direct, https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0001457521001998
- Road Safety Education, https://www.rse.org.nz/music-and-driving/