จากการรวบรวมข้อมูลโดย สำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า “คนเดินถนน” ประสบเหตุถึง 2,500-2,900 คนต่อปี โดยกว่า 1 ใน 3 อยู่ในเขต กทม. เฉลี่ย 900 คนต่อปี หรือตกวันละ 2.5 คน ที่คนในเมืองกรุงฯ ประสบอุบัติเหตุจากการข้ามถนน แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะไม่มีหรือมีทางม้าลาย รวมถึงสัญญาณจราจรให้คนข้ามแล้วก็ตาม แต่น้อง ๆ ควรต้องมั่นใจในการข้ามถนนทุก ๆ ครั้ง และในขณะเดียวกันคนขับขี่ก็ควรระวังคนข้ามเสมอ ด้วยทริค 3 ข้อง่าย ๆ ที่อ่านแล้ว รับรองว่ามีเครื่องมือนี้ไว้ติดใจพากายข้ามถนนได้อย่างปลอดภัยแน่นอน ด้วย “3S: SEE – SLOW – STOP” ว่าแต่จะมีความหมายอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันเลย
เรื่องการมองสำคัญยืนหนึ่ง ไม่ว่าคนข้ามถนน หรือ คนขับขี่ สำหรับคนข้ามให้มองซ้ายและขวาก่อนข้ามทางม้าลายเสมอ ถึงแม้ว่าจะมีป้ายข้ามทางม้าลายอยู่แล้วก็ตาม หรือหากตรงทางข้ามมีปุ่มให้กดสัญญาณไฟตรงทางม้าลาย และมีคนข้ามนำไปแล้ว เราก็ควรมองให้มั่นใจก่อนข้ามด้วยทุกครั้ง ส่วนคนขับขี่นั้นให้มองคนข้ามถนน และระวังจุดบอดต่าง ๆ ที่มักก่อให้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ เช่น รถอื่นบังคนข้าม คนวิ่งหรือเดินข้ามทางม้าลายโดยไม่ทันได้มอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าโรงเรียน หน้าโรงพยาบาล ตลาด หรือเขตชุมชน ยิ่งควรระวัง และลดความเร็วลงเสมอ ให้ความเร็วลดอยู่ระหว่าง 30-50 กม./ชม. เพื่อชะลอให้คนข้ามทางม้าลาย เพราะโซนนี้มีผู้คนหนาแน่น เด็กเองอาจจะยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ คนป่วยหรือผู้สูงอายุที่มาโรงพยาบาลก็อาจจะเดินได้ไม่เร็วนัก คนในย่ายชุมชนและตลาดสดที่อาจจะออกมาเดินบนท้องถนนได้
เมื่อเห็นคนกำลังจะข้ามทางม้าลาย ผู้ขับขี่ควรชะลอและหยุดรถจนกว่าคนจะข้ามเสร็จ สำหรับทางม้าลายไหนมีสัญญาณไฟนับถอยหลังให้คนข้าม ก็ควรรอให้สัญญาณไฟหมดลงก่อนค่อยออกตัว การหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายนั้น นอกจากจะช่วยลดความกังวลในการข้ามทางม้าลายของคนเดินเท้าแล้ว ยังเป็นการแสดงความมีน้ำใจบนท้องถนนให้กับเพื่อนร่วมทางได้อีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้อง ๆ สำหรับทริค 3S: SEE – SLOW – STOP ที่เป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนข้ามถนน และ คนขับขี่ ก็ร่วมกันสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนให้เกิดขึ้นได้ ย้ำกันอีกครั้งนะครับน้อง ๆ มองซ้าย มองขวา ก่อนข้ามถนนและทางม้าลายเสมอ ให้เรามั่นใจว่าการข้ามถนนหนทางของเราปลอดภัยทุกครั้ง
ที่มา: