ถ้าพูดถึงการขับขี่บนท้องถนนแล้วละก็ พี่เซฟคิดว่า “ตำรวจจราจร” คงเป็นคนที่เราไม่ค่อยอยากคุยด้วยที่สุดแน่นอน เพราะแค่พูดถึงเราก็นึกถึงคนคุมเข้มน่ากลัวหรือคอยแจกใบสั่ง แต่วันนี้พี่เซฟได้คุยกับพี่ตำรวจ พ.ต.ท.พชร์ ฐาปนดุลย์ รองผู้กำกับการ กลุ่มงานจราจร กองแผนงานความมั่นคง สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และได้ทำความเข้าใจใหม่ ๆ ได้ความรู้มาฝากน้อง ๆ เพียบเลยครับ
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าตำรวจจราจรมีหน้าที่อีกมากมาย ไม่ใช่แค่จับหรือปรับอย่างเดียว พี่พชร์เล่าว่าตำรวจจราจรมีหน้าที่หลัก ๆ คือการกำกับดูแลและรับผิดชอบให้ประชาชนทำตามกฎหมายจราจร ในการทำผิดกฎก็อาจจะดำเนินการสถานเบาอย่างการตักเตือนก็ได้เหมือนกัน และอีกหน้าที่ที่เราอาจจะไม่เคยรู้คือการกำกับดูแลกฎหมายและปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย เหมาะสมกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป สุดท้ายคือการรณรงค์ตามโรงเรียนต่าง ๆ เช่น “จราจรหน้าเสาธง” ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเป็นเข้าไปสอนในคาบเรียนต่าง ๆ และยังขยายไปถึงการให้ความรู้กับชุมชน รวมถึงหน่วยงานภาคีต่าง ๆ เช่น ส่วนราชการ บริษัท โรงงาน เพื่อทบทวนกฎหมายต่าง ๆ ให้ประชาชนเข้าใจเข้าใจอยู่เสมอ เพราะกว่าจะไปต่อใบขับขี่แต่ละทีเราก็อาจจะหลงลืมกันหมดแล้ว
ซึ่งจากสถิติรายงานพบกว่าการขับรถเร็วเป็นความผิดอันดับ 1 รองลงมาเป็นการไม่สวมหมวกกันน็อก หรือไม่ทำตามสัญญาณไฟ พี่พชร์ยังเสริมในเรื่องนี้ว่า “ผู้ขับขี่บางคนอาจจะบอกว่าการไม่สวมหมวก ไม่รัดเข็มขัด ถ้าเกิดอุบัติเหตุก็เป็นศีรษะของผม เป็นอกของผม ผมเจ็บตำรวจมายุ่งอะไร แต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดความสูญเสีย มันไม่ได้ส่งผลกระทบแค่คุณคนเดียว แต่ส่งผลถึงคนรัก ครอบครัว เพื่อนร่วมทาง หรือบุคคลากรทางการแพทย์ในการรักษาพยาบาลด้วย ผมอยากให้คนคำนึงถึงความปลอดภัย มีน้ำใจให้กันจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ”
สุดท้ายนี้พี่ตำรวจฝากพี่เซฟมาบอกน้อง ๆ ว่า
"การขับขี่แม้จะเป็นสิทธิ แต่อยากให้มองว่ามาพร้อมความรับผิดชอบด้วย และไม่ใช่สิทธิที่ติดตัวมา แต่เป็นสิทธิที่จะมีก็ต่อเมื่อต้องสอบใบขับขี่ให้ได้ก่อน เพราะฉะนั้นการขับขี่อยากขอให้ยึดตามกฎจราจรมาก่อนอันดับแรกเลย อย่าประมาทครับ ความประมาท แค่ครั้งเดียวก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนเกิดความสูญเสีย ทั้งต่อเราเอง คนที่โดยสารมากับเรา หรือผู้ร่วมทางด้วย"
พ.ต.ท.พชร์ ฐาปนดุลย์
พี่ ๆ ตำรวจเข้มงวดกวดขันก็เพื่อความปลอดภัยของทุกคนนะครับ พี่เซฟว่าถ้าน้อง ๆ ทำตามกฎจราจรก็ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย