ค้นหา

ใบสั่งจราจร! รู้ไว้ไม่เป็นเรื่อง

792

“ใบสั่ง” ผู้ใช้รถใช้ถนนหลาย ๆ คนอาจจะเคยเจอกันมาบ้าง หากทำผิดกฎจราจร เช่น ขับรถเร็ว ฝ่าไฟแดง ขับรถย้อนศร ไม่สวมหมวกกันน็อก ฯลฯ ซึ่งโทษจากใบสั่งนั้น มีตั้งแต่เสียเงินไปจนจำคุกกันเลยทีเดียว

วันนี้พี่เซฟเลยจะมาเล่าเรื่องของใบสั่งให้น้อง ๆ ได้รู้จักกันมากขึ้น ว่าโดนใบสั่งแล้ว จะโดนปรับเท่าไหร่กันบ้าง รวมไปถึงเรื่องต่าง ๆ ให้เราได้รับรู้และเข้าใจ จะได้ขับขี่กันให้ถูกต้องปลอดภัย ไม่โดนใบสั่ง ว่าแต่จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. ใบสั่งคืออะไร

ใบสั่งที่น้อง ๆ เรียกกันติดปากในทุกวันนี้นั้น เราเรียกกันตามกฎหมายว่า “ใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่” ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ มาตรา 140 วรรคสาม กล่าวว่า “เมื่อถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไป แล้วให้ใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่มาใช้แทนก่อน”

แต่ที่เรียกอย่างย่อจนเหลือแค่คำว่าใบสั่งนั้น เพราะใบสั่งนั้นมาเอกสาร 1 เล่ม ซึ่งประกอบด้วย 25 ชุดใบสั่ง แต่ละชุดมีเอกสาร 4 แผ่น 4 สี ซึ่งใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ (ใบที่ทุกคนส่วนใหญ่ได้กัน) จะมีสีขาว ส่วนสำเนาอีก 3 ใบ ก็จะเป็นสีเหลือง ชมพู และฟ้า ตามลำดับ ซึ่งพอมันมีเอกสารหลายใบขนาดนี้ เราก็เลยเรียกรวม ๆ กันว่า “ใบสั่ง” นั่นเอง ซึ่งทุกคนที่ได้รับใบสั่งก็ต้องไปจ่ายค่าปรับจราจรกันที่สถานีตำรวจอย่างที่ทุกคนเข้าใจ

จนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 มีการปรับปรุงใบสั่งการจ่ายค่าปรับจราจรใหม่ ตาม “กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ. 2563” ให้ใบสั่งมี 2 ชุด ด้วยกัน โดยชุดแรกยังคงเป็น 4 สีเหมือนเดิม แต่ชุดใหม่ที่มีขึ้นมา คือ ใบสั่งในกรณีที่ถูกจับผ่านระบบเทคโนโลยี (เช่น กล้องตรวจจับความเร็ว) ซึ่งจะถูกสั่งไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของเจ้าของรถ เท่ากับว่าตอนนี้ บ้านเรามีใบสั่ง 2 แบบด้วยกัน คือแบบที่เขียนในที่เกิดเหตุที่เราคุ้นเคย กับแบบนี้ที่ตรวจจับด้วยเทคโนโลยี ซึ่งแบบหลังนี่ มีส่งตรงถึงบ้านกันเลยทีเดียว

ใบสั่งแบบใหม่ทั้ง 2 แบบนี้ สามารถจ่ายค่าปรับจราจรได้ 3 ช่องทาง ได้แก่

  1. สถานีตำรวจทุกที่ทั่วประเทศ
  2. ไปรษณีย์
  3. ATM Internet Banking บัตรเครดิต และที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

หมายเหตุ:

ATM ต้องเป็นเครื่องที่มีสัญลักษณ์ PMT และ Internet Banking ต้องจ่ายหลังจากออกใบสั่งแล้ว 2 วันทำการ

2. ใบสั่งเดิม เพิ่มเติมคือปรับราคาและโทษใหม่

เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศบังคับใช้ “พระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565” ซึ่งได้มีการปรับราคาค่าปรับจราจรในอัตราใหม่ด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ โดยอัตราโทษปรับที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การสูญเสียของผู้ขับขี่และผู้ใช้ทาง ดังนี้

  • ขับรถเร็วเกินกำหนด ปรับไม่เกิน 4,000 บาท โทษเดิม ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ปรับไม่เกิน 4,000 บาท โทษเดิม ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ปรับไม่เกิน 4,000 บาท โทษเดิม ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
  • ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท โทษเดิม ปรับไม่เกิน 500 บาท
  • ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท โทษเดิม ปรับไม่เกิน 500 บาท
  • ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท โทษเดิม ปรับไม่เกิน 500 บาท

และยังมีการเพิ่มโทษผู้ขับขี่ที่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น เป็น “จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากอัตราโทษเดิม จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท”

3. ค่าปรับใบสั่ง ไม่สนไม่จ่ายได้ไหม

โดยปกติแล้ว ถ้าเราโดนใบสั่งจากตำรวจในกรณีที่ทำผิดกฎจราจร ก็ควรจะไปจ่ายค่าปรับตามที่ใบสั่งกำกับเอาไว้ แต่น้อง ๆอาจจะเคยได้ยินข่าวว่ามีคนค้างใบสั่ง 300 กว่าใบ จนตำรวจต้องไปตามจับถึงบ้าน ซึ่งพอเห็นข่าวแล้ว อาจจะงงว่า โดนใบสั่งมากขนาดนั้น ทำไมยังรอดมือตำรวจมาได้ ซึ่งกรณีแบบนี้ เกิดขึ้นจากการใช้ช่องว่างของกฎหมาย ทำให้คนคิดว่าถ้าเราสะสมใบสั่งไว้ แค่ข้ามปีใบเก่าก็ใช้ไม่ได้แล้ว ซึ่งจริง ๆ แล้วถือว่าผิดกฎหมายนะครับ

หรือหากน้อง ๆ พิจารณาดูแล้วว่า ใบสั่งที่ได้รับไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถปฎิเสธข้อหาได้ โดยนำหลักฐานและพยานไปแจ้งต่อหน้าเจ้าที่ผู้ออกใบสั่ง หรือแจ้งต่อหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ได้รับใบสั่งมา ซึ่งหากไม่ได้ทำผิดจริง จะดำเนินการยกเลิกให้

นอกจากนี้ พี่เชฟจะเล่าว่า คนไทยชอบค้างใบสั่ง จากข้อมูลสถิติการออกใบสั่งจราจรปี พ.ศ. 2563 ในระบบ Police Ticket Management โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า มีการออกใบสั่งทั้งสิ้น 15,837,054 ใบ แบ่งเป็นทางไปรษณีย์ส่งถึง บ้าน 13,446,537 ใบ และเป็นเล่ม 2,390,517 ใบ ผลปรากฏว่า มีผู้มาจ่ายค่าปรับใบสั่งที่ส่งทางไปรษณีย์ 1,100,701 คิดเป็น 8% ส่วนคนมาจ่ายค่าปรับเป็นเล่ม 1,717,975 ใบ คิดเป็น 72% ส่วนคนไม่จ่ายค่าปรับใบสั่ง ที่ส่งทางไปรษณีย์ 12,345,836 ใบ คิดเป็น 92% แบบเล่ม 672,542 ใบ คิดเป็น 28% ให้ดีเราควรช่วยกันขับขี่ให้ถูกต้องตามกฎจราจร และร่วมป้องกันที่ต้นเหตุ ก่อนจะได้รับใบสั่งเป็นดีที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ

แต่ทุกวันนี้ พี่เซฟขอบอกเลย “ไม่สน ไม่แคร์ ใบสั่งไม่ได้แล้วนะ!” เพราะมีผลกระทบคือ “โดนพักใช้ใบขับขี่” ซึ่งจะโดนหักคะแนนความประพฤติ ไปตั้งแต่ 1-2 คะแนน หากถูกตัดจนหมด 12 คะแนน จะถูกพักใช้ใบขับขี่ 90 วัน (3 เดือน) และต้องเข้ารับการอบรมใบขับขี่ใหม่อีกครั้ง หากทำผิดจนโดนพักใช้ใบขับขี่ 3 ครั้ง ภายใน 3 ปี จะถูกพักใช้นาน 1 ปี และถ้าทำผิดซ้ำอีกในปีถัดไป จะโดนเพิกถอนใบขับขี่ ต้องเสียเวลารออีก 5 ปี ถึงจะทำใหม่ได้ (คะแนนความประพฤติ จะเริ่มนับใหม่ทุก ๆ ปี)

เห็นแบบนี้แล้ว ถ้าน้อง ๆ อยากรู้ว่าตัวเอง หรือคนใกล้ตัว มีโดนใบสั่งกันบ้างไหม และจ่ายค่าปรับแล้วหรือยัง สามารถเช็กข้อมูลบนระบบออนไลน์ได้แล้ว เพียงเข้าไปที่ https://ptm.police.go.th/eTicket ลงทะเบียนใช้งานตามข้อมูลของบัตรประชาชนให้เรียบร้อย เท่านี้ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลใบสั่งกันได้เลย

เป็นอย่างไรกับบ้างครับน้อง ๆ กับข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับใบสั่ง ที่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรศึกษาไว้ก่อนจะสูญเสียเงินและเวลาไปกับโทษปรับ ที่พวกเราทุกคนสามารถป้องกันได้ด้วยวินัยการขับขี่และการเคารพกฎจราจรและความปลอดภัยของเราและเพื่อนร่วมทาง

ที่มา:

ติดตามโซเชียลของเราได้ที่

© Copyright 2022 Safe Education Thailand. All rights reserved.